Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ความคิดเห็นของผู้บริหาร ครูพลศึกษา และนักศึกษาเกี่ยวกับปัญหาการจัด และการดำเนินการโปรแกรมพลศึกษา ในสถาบันการศึกษาพยาบาล ในกรุงเทพมหานคร

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Opinions of administrators, physical education teachers, and students concerning problems of organizaing and conducting physical education programs in schoold of nursing, Bangkok metropolis

Year (A.D.)

1983

Document Type

Thesis

First Advisor

ฟอง เกิดแก้ว

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

พลศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1983.158

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความคิดเห็นของผู้บริหาร ครูพลศึกษาและนักศึกษา เกี่ยวกับปัญหาการจัดและดำเนินการโปรแกรมพลศึกษาในสถาบันการศึกษาพยาบาล ในกรุงเทพมหานครผู้วิจัยได้สร้างแบบสอบถามเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการวิจัยครั้งนี้ โดยส่งแบบสอบถามไปยังสถาบันการศึกษาพยาบาลในกรุงเทพมหานคร จำนวน 14 สถาบัน เป็นแบบสอบถามสำหรับผู้บริหารจำนวน 28 ชุด สำหรับครูพลศึกษา จำนวน 35 ชุด สำหรับนักศึกษา จำนวน 140 ชุด รวมจำนวนแบบสอบถามทั้งหมด 203 ชุด และได้รับแบบสอบถามคืนมาทั้งหมดการวิเคราะห์ข้อมูล โดยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารกับครูพลศึกษา โดยใช้ค่าที (t-test) แล้วนำเสนอในรูปตารางความเรียงผลการวิจัยพบว่า1.สถาบันการศึกษาพยาบาลในกรุงเทพมหานคร ส่วนใหญ่ไม่มีครูพลศึกษาประจำสถาบัน ครูผู้สอนวิชาพลศึกษาเป็นครูพิเศษ2.ผู้บริหารมีความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาการจัดและดำเนินการโปรแกรมพลศึกษา ในสถาบันการศึกษาพยาบาล ที่มีปัญหาอยู่ในระดับมาก คือ นักศึกษาขาดสนามในการฝึกซ้อม ความไม่เหมาะสมของขนาดและบริเวณสนามของสถาบัน สนามที่ใช้ในการเรียนการสอนวิชาพลศึกษามีไม่เพียงพอ ความไม่เหมาะสมของทำเลที่ตั้งของสนามและห้องเรียนกิจกรรมพลศึกษา นักศึกษาไม่มีเวลาในการฝึกซ้อมเพื่อการแข่งขัน ความไม่สะดวกเกี่ยวกับการใช้สถานที่ในการแยกเก็บตัวนักศึกษาเพื่อใช้ในการฝึกซ้อม ขาดงบประมาณในการจัดกิจกรรมเพื่อนันทนาการ3.ครูพลศึกษามีความคิดเห็นว่า เกี่ยวกับปัญหาการจัดและการดำเนินการโปรแกรมพลศึกษาในสถาบันการศึกษาพยาบาล ที่มีปัญหาอยู่ในระดับมากคือ นักศึกษาขาดสนามในการฝึกซ้อม สนามที่ใช้ในการเรียนการสอนวิชาพลศึกษาไม่เพียงพอ นักศึกษาไม่มีเวลาฝึกซ้อมเพื่อการแข่งขัน ไม่สามารถรวมทีมนักกีฬาได้ เพราะนักศึกษาส่วนใหญ่ต้องมีภาระหน้าที่ในด้านการเรียน ขาดงบประมาณในการจัดการแข่งขันกีฬาภายนอกสถาบัน และกิจกรรมเพื่อนันทนาการ ความไม่สะดวกในการใช้สถานที่เพื่อแยกเก็บตัวนักกีฬา ขาดสิ่งอำนวยความสะดวกในการจัดกิจกรรมเพื่อนันทนาการ โอกาสในการเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อนันทนาการของนักศึกษามีน้อย และสถาบันไม่ให้การสนับสนุนกิจกรรมเพื่อนันทนาการเท่าที่ควร4.นักศึกษามีความคิดเห็นว่า เกี่ยวกับการเรียนการสอนวิชาพลศึกษาในสถาบันการศึกษาพยาบาล ที่มีปัญหาอยู่ในระดับมากคือ สนามและอุปกรณ์ที่ใช้ในการเรียน การสอน และใช้ในการฝึกซ้อมยังไม่เพียงพอ และไม่ได้มาตรฐาน ทำเลที่ตั้งของสนามไม่เหมาะสม และไม่สะดวกในการที่จะใช้สนามเพื่อการฝึกซ้อม ไม่ได้รับความสะดวกในการเบิกใช้และส่งคืนอุปกรณ์ และอัตราส่วนของครูพลศึกษากับนักศึกษาไม่สมดุลย์จากการทดสอบความมีนัยสำคัญของค่าเฉลี่ย ความคิดเห็นระหว่างผู้บริหารและครูพลศึกษาเกี่ยวกับปัญหาการจัดและการดำเนินการโปรแกรมพลศึกษา พบว่า ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .10 ทุกรายการปัญหา

Share

COinS