Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การเปรียบเทียบระดับอุณหภูมิของร่างกายก่อนและหลังรับประทานอาหาร

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A comparison of levels of the body temperature before and after food intake

Year (A.D.)

1983

Document Type

Thesis

First Advisor

สมคิด รักษาสัตย์

Second Advisor

ประนอม รอดคำดี

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

พยาบาลศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1983.151

Abstract

การวิจัยนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเปรียบเทียบระดับอุณหภูมิร่างกายของคนปกติก่อนและภายหลังรับประทานอาหารมื้อเย็น เพื่อเปรียบเทียบระดับอุณหภูมิสูงสุดภายหลังรับประทานอาหารระหว่างกลุ่มที่ได้รับอาหารร้อนกับกลุ่มที่ได้รับอาหารเย็น เพื่อเปรียบเทียบระยะเวลาการเพิ่มอุณหภูมิของร่างกายขึ้นสู่ระดับสูงสุดภายหลังรับประทานอาหารและระยะเวลาของการลดระดับอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นภายหลังรับประทานอาหารลงสู่ระดับปกติระหว่างกลุ่มที่ได้รับอาหารร้อนกับกลุ่มที่ได้รับอาหารเย็น ตัวอย่างประชากรที่ใช้ในครั้งนี้เป็นพลทหารแห่งกองร้อยพลเสนารักษ์และศูนย์โทรศัพท์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า จำนวน 60 คน ซึ่งเลือกโดยวิธีการสุ่มอย่างง่ายโดยใช้ตารางเลขสุ่ม แบ่งประชากรออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 30 คน กลุ่มที่ 1 ให้รับประทานอาหารเย็น กลุ่มที่ 2 ให้รับประทานอาหารร้อน อาหารที่ให้รับประทานคำนวณจากน้ำหนักและส่วนสูงของแต่ละคน วัดอุณหภูมิร่างกายครั้งแรกก่อนรับประทานอาหาร และภายหลังรับประทานอาหาร วัดอุณหภูมิร่างกายทุก 10 นาที เทอร์โมมิเตอร์ที่ใช้วัดอุณหภูมิร่างกายได้รับ การทดสอบแล้วว่ามีความสามารถในการขยายตัวเท่ากัน การวิเคราะห์ข้อมูลกระทำโดยการหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที และแพร์ที-เทส ผลการวิจัยพบว่า 1. ค่าเฉลี่ยของอุณหภูมิสูงสุดของร่างกายภายหลังรับประทานอาหารสูงกว่าค่าเฉลี่ยของระดับอุณหภูมิร่างกายก่อนรับประทานอาหารทั้ง 2 กลุ่ม โดยกลุ่มที่ 1 แตกต่างกันอย่างามีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 กลุ่มที่ 2 มีความแตกต่างกันอย่งมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .005 2. ระดับอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นภายหลังรับประทานอาหาร กลุ่มที่ 2 เพิ่มขึ้นมากกว่ากลุ่มที่ 1 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .0005 โดยค่าอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นสูงสุดคือ 0.4 องศาเซลเซียส ในกลุ่มที่ 1 และ 0.6 องศาเซลเซียส ในกลุ่มที่ 2 3. ระยะเวลาของการเพิ่มอุณหภูมิร่างกายขึ้นสู่ระดับสูงสุดภายหลังรับประทานอาหาร ใช้เวลาไม่ต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยกลุ่มที่ 1 ใช้เวลาเฉลี่ย 42.586 นาที กลุ่มที่ 2 ใช้เวลาเฉลี่ย 34.821 นาที 4. ระยะเวลาของการลดระดับอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นภายหลังรับประทานอาหารลงสู่ระดับอุณหภูมิก่อนรับประทานอาหาร ทั้ง 2 กลุ่มใช้เวลาไม่ต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยกลุ่มที่ 1 ใช้เวลาเฉลี่ย 132.069 นาที กลุ่มที่ 2 ใช้เวลาเฉลี่ย 123.929 นาที ดังนั้นจึงไม่ควรวัดอุณหภูมิร่างการในระยะเวลา 2 ชั่วโมงภายหลังรับประทานอาหาร โดยเฉพาะระหว่างเวลา 30-45 นาทีหลังรับประทานอาหาร เพราะค่าอุณหภูมิที่วัดได้อาจสูงขึ้นจนทำให้มีการแปรความหมายผิดไปได้

Share

COinS