Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
ความสัมพันธ์ระหว่างอยุธยาและลานนา พ.ศ. 1839-2310
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Ayuthya-Lanna relation, 1296-1767
Year (A.D.)
1983
Document Type
Thesis
First Advisor
นิธิ เอียวศรีวงศ์
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
อักษรศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
ประวัติศาสตร์
DOI
10.58837/CHULA.THE.1983.579
Abstract
เขตที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำปิง และแม่นำกก เป็นเขตที่ชุมชนอาศัยอยู่มานานแล้ว ประมาณพุทธศตวรรษที่ 17 เป็นต้นมาพบหลักฐานการติดต่อสัมพันธ์กันในหมู่ชุมชนเหล่านี้ มีลักษณะเป็นการขยายวัฒนธรรมจากเขตที่ราบลุ่มเจ้าพระยา ขึ้นมายังเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำปิงทางตอนบน และความสัมพันธ์ในด้านเศรษฐกิจ คือการค้าขายระหว่างเขตทั้ง 2 ในขณะเดียวกันก็มีหลักฐานความสัมพันธ์ระหว่างลุ่มแม่น้ำกก และลุ่มแม่น้ำปิง ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมา ได้มีการก่อรูปอาณาจักรขึ้นคือ อาณาจักรลานนาไทยในบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำกกและที่ราบลุ่มแม่น้ำปิงทางตอนบน อาณาจักรสุโขทัยในบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาทางตอนบน และอาณาจักรอยุธยาในบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาทางตอนล่าง วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มุ่งศึกษาถึงความสัมพันธ์ระหว่างอาณาจักรลานนาไทยและอยุธยาตั้งแต่ พ.ศ. 1839 – 2310 โดยพิจารณาถึงระบบการเมืองการปกครอง ศาสนา และเศรษฐกิจ อันมีผลต่อความสัมพันธ์ของอาณาจักรทั้งสอง พิจารณาถึงรูปแบบและความเปลี่ยนแปลงของความสัมพันธ์ภายในอาณาจักรตลอดจนวิธีการของความสัมพันธ์ ผลของการศึกษาพบว่า ในความสัมพันธ์ของอาณาจักรทั้งสองมีผลมาจากโครงสร้างทางการเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ และศาสนา แนวความคิดพุทธศาสนาลังกาวงศ์ที่มีบทบาทต่อโครงสร้างสถาบันกษัตริย์และโครงสร้างทางการเมือง การปกครอง การขยายอำนาจเข้าครอบครองอาณาจักรสุโขทัยของอาณาจักรอยุธยา ขุนนางลานนาไทย การขยายอิทธิพลของพม่ามายังเขตที่ลุ่มแม่น้ำดังกล่าว และสินค้าของป่า สิ่งเหล่านี้เป็นแรงผลักดันสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสัมพันธ์ในแต่ละครั้ง ความสัมพันธ์ของอาณาจักรทั้งสองในระยะแรก เป็นผลมาจากการขยายอำนาจเข้าครอบครองอาณาจักรสุโขทัยของอาณาจักรทั้งสอง เป็นผลมาจาก แนวความคิด “จักรพรรดิราช" และแรงผลักดันทางด้านเศรษฐกิจคือ สินค้าของป่า ลักษณะการขยายอำนาจ อาณาจักรอยุธยาเป็นฝ่ายยกทัพขึ้นมามากกว่าอาณาจักรลานนาไทย หลังสมัยราชวงศ์มังรายเป็นต้นมามีแรงผลักดันของความสัมพันธ์อีกสองประการ คือ การขยายอำนาจของราชวงศ์ตองอู และการขยายตัวทางการค้าในอาณาจักรอยุธยา ซึ่งมีผลกระทบต่ออาณาจักรทั้งสองอย่างมากทั้งในด้านการเมืองและศูนย์กลาง อาณาจักรลานนาไทยต้องตกเป็นของพม่าในขณะที่อาณาจักรอยุธยาได้พัฒนาด้านการปกครองภายในอาณาจักรให้รัดกุมขึ้น ความสัมพันธ์ในระยะนี้ลานนาไทยอยู่ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของพม่า ซึ่งทำสงครามกับอยุธยาเป็นครั้งคราว การค้ากับต่างประเทศทำให้พระมหากษัตริย์อยุธยาเพิ่มความมั่งคั่ง จึงยิ่งผลักดันให้พยายามรักษาผลประโยชน์ทางการค้าและเข้าครอบครองลานนาไทยในระยะก่อนพุทธศตวรรษที่ 23 ในขณะเดียวกันอาณาจักรอยุธยาก็ขยายอำนาจเข้าควบคุมหัวเมืองท่าทางฝั่งตะวันตก คือ ตะนาวศรี และหัวเมืองมอญ ความสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจในประมาณครึ่งหลังพุทธศตวรรษที่ 23 เริ่มน้อยลง เพราะความต้องการสินค้าป่าในอยุธยาลดลง และแรงผลักดันทางด้านการเมืองก็มีน้อยลง คือพม่ามิได้ขยายอำนาจเข้ามาในเขตนี้อีก จนกระทั่งราชวงศ์อลองพญาได้ขยายอำนาจเข้ามาในเขตนี้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งนำไปสู่ความสัมพันธ์กับศูนย์อำนาจในลุ่มน้ำเจ้าพระยาอีกครั้งหนึ่ง โดยผู้นำท้องถิ่นในลานนาพยายามอาศัยอำนาจหักล้างอำนาจของพม่า
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
ธงไชย, อุษณีย์, "ความสัมพันธ์ระหว่างอยุธยาและลานนา พ.ศ. 1839-2310" (1983). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 50778.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/50778