Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การตรึงไนโตรเจนในฟอร์มิกดีไฮโดรจิเนส มิวแตนท์ของ Klebsiella pneumoniae M5a1

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Nitrogen fixation in formic dehydrogenase mutants of Klebsiella pneumoniae M5a1

Year (A.D.)

1983

Document Type

Thesis

First Advisor

ไพเราะ ทิพยทัศน์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

ชีวเคมี

DOI

10.58837/CHULA.THE.1983.436

Abstract

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 2 ประการ คือ หนึ่ง เพื่อศึกษาคุณสมบัติของฟอร์มิกดีไฮโดรจิเนสมิวแตนท์ของเคลบเซียลานิวโมนิอี M5a1 สอง ใช้มิวแตนท์บางตัวเป็นตัวแทนในการศึกษาการควบคุมการตรึงไนโตรเจน สำหรับมิวแตนท์สายพันธุ์ 2F และ 24A ซึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่มที่ไม่สามารถตรึงไนโตรเจนได้ ได้เพิ่มยีน nif เข้าไปในมิวแตนท์นี้อีกหนึ่งชุด ในรูปของพลาสมิค (RP41) พบว่าคอนจูแกนต์ทุกตัวสามารถตรึงไนโตรเจนได้ ส่วนคุณสมบัติของการเป็นฟอร์มิกดีไฮโดรจิเนสยังคงเดิม ดังนั้นจึงคาดว่ามิวแตนท์ทั้งสองสายพันธุ์ น่าจะมีความผิดพลาด แบบ double mutation ซึ่งจากการศึกษา reversion frequency ก็ให้ผลสอดคล้องกันด้วย สำหรับมิวแตนท์สายพันธุ์ 10F ซึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่มที่มีความสามารถในการตรึงไนโตรเจน พบว่า มันสามารถเจริญได้ภายในภาวะที่ปลดปล่อยการถอดระหัสของเอนไซม์ไนโตรจิเนส โดยให้ค่าการเจริญสูงสุดดีกว่าไวด์ไทพ์เล็กน้อย รูปแบบของอะเซทีลีนรีดักชั่น ที่พบในคัลเจอร์ของทั้งมิวแตนท์และไวด์ไทพ์ไม่แตกต่างกัน แต่จะแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญในรูปแบบของการให้ก๊าซไฮโดรเจน กล่าวคือ ปริมาณก๊าซไฮโดรเจนที่พบใน 10F มีค่าต่ำกว่าไวด์ไทพ์ประมาณ 3 เท่าที่ stationary phase คือมีค่า 56 และ 16 ไมโครโมลต่อคัลเจอร์สำหรับไวด์ไทพ์และในสภาพที่เสริมโซเดียมไนเตรต 10 มิลลิโมลาร์ลงในอาหาร ไวด์ไทพ์จะเจริญได้ดี เพราะใช้ไนเตรตเป็นสารต้นตอไนโตรเจนได้โดยพบไนไตร์ตในอาหาร แต่ในสภาวะดังกล่าว 10F จะเจริญได้ช้ากว่า พบ lag peroid จากนั้น ค่าความชุ่มจะเพิ่มขึ้นช้า ๆ จนกระทั่งถึงความชุ่มสูงสุด OD420nm 0.45 หน่วย แต่พบว่า ตรวจสอบค่าแอคติวิตีของอะเซทีลีนรีกักชั่นได้ ในคัลเจอร์ ตั้งแต่เริ่มต้นเจริญ จนถึงจุดสูงสุด การทดลองนี้แสดงว่า ไนเตรตมิได้เป็นตัวกดดันที่แท้จริงของการถอดระหัสของเอนไซม์ไนโตรจิเนส นอกจากนี้โดยอาศัย 10F เป็นต้นแบบ ยังพบว่ไนโตร์ตก็อาจมิใช่ตัวกดดันที่แท้จริงของการถอดระหัสของเอนไซม์ไนโตรจิเนสอีกด้วย ตรงกันข้าม สภาพการกดดันของไนไตร์ตจะคล้ายกับของอัมโมเนียมมาก และอัมโมเนียมก็เป็นอนุมูลไนโตรเจนที่ได้รับการยืนยันว่า ไม่ใช่ตัวกดดันของการถอดระหัสของเอนไซม์ไนโตรจิเนส

Share

COinS