Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาต้นทุนการผลิตลูกกุ้งก้ามกรามในจังหวัดฉะเชิงเทรา

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A study of the cost of backyard hatchery for macrobrachium rosenbergii in cha- choengsao provices

Year (A.D.)

1983

Document Type

Thesis

First Advisor

สมศักดิ์ ลิงหลกะ

Second Advisor

นันทพร เลิศบุศย์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

บัญชีมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

การบัญชี

DOI

10.58837/CHULA.THE.1983.334

Abstract

ในการทำวิทยานิพนธ์ฉบับนี้ ผู้วิจัยมีวัตถุประสงค์ที่จะศึกษาลักษณะทั่วไปของการผลิตลูกกุ้งก้ามกรามในครัวเรือน ปัจจัยและขั้นตอนในการผลิต ต้นทุนและการวิเคราะห์ต้นทุนการผลิต และปัญหาต่างๆ ในการผลิต ข้อมูลในการวิจัยเรื่องนี้ได้จากการสอบถามผู้ผลิตในครัวเรือนในจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยคัดเลือกเป็นตัวอย่างจำนวน 4 ราย บางส่วนศึกษาค้นคว้าจากตำราและเอกสาร ผลการวิจัยพบว่า การผลิตลูกกุ้งก้ามกรามในครัวเรือนอาจจะผลิตไม่สม่ำเสมอต่อเนื่องตลอดปี ทั้งนี้เนื่องจากการขาดแคลนน้ำและความไม่แน่นอนของปริมาณผลผลิตที่ได้ ปัจจัยที่ใช้ในการผลิตลูกกุ้งก้ามกราม ได้แก่ ภาชนะต่างๆ ที่ใช้ในการเพาะเลี้ยง อุปกรณ์ในการเพาะเลี้ยงแม่พันธุ์กุ้ง อาหาร และแรงงาน ผู้ผลิตลงทุนในภาชนะที่ใช้พักน้ำเป็นจำนวนเงินมากกว่ารายจ่ายลงทุนประเภทอื่นๆ ต้นทุนการผลิตส่วนใหญ่ได้แก่ ค่าไรน้ำเค็ม ซึ่งมีประมาณร้อยละ 56.45 ของต้นทุนการผลิต นอกจากนี้ต้นทุนการผลิตลูกกุ้งก้ามกราม 1 ตัว โดยเฉลี่ยประมาณ 0.1532 บาท ประกอบด้วยค่าวัตถุดิบ 0.0971 บาท ค่าแรงงาน 0.0279 บาท และค่าใช้จ่ายในการผลิต 0.0282 บาท จากการวิเคราะห์ต้นทุนการผลิตทำให้ทราบว่า ต้นทุนการผลิตต่อลูกกุ้ง 1 ตัว จะลดลงได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับต้นทุนการผลิตและปริมาณลูกกุ้งที่ผลิตได้ ต้นทุนการผลิตต่อลูกกุ้ง 1 ตัว อาจจะลดลง ถ้าต้นทุนการผลิตรวมลดลงในอัตราที่มากกว่าอัตราการลดลงของปริมาณผลผลิตลูกกุ้งหรือต้นทุนการผลิตรวมลดลงโดยที่ปริมาณผลผลิตมีจำนวนเท่าเดิม หรือมีจำนวนเพิ่มขึ้น หรือในกรณีที่ต้นทุนการผลิตรวมเพิ่มขึ้นแต่ปริมาณผลผลิตลูกกุ้งที่ได้มีจำนวนเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่าอัตราการเพิ่มของต้นทุนการผลิต ปัญหาสำคัญของผู้ผลิตลูกกุ้งก้ามกรามในครัวเรือนมีหลายประการ นอกจากการขาดแคลนน้ำและการที่คุณภาพของน้ำเปลี่ยนแปลงแล้วยังมีปัญหาการขาดแคลนแม่พันธุ์กุ้ง ปัญหาอัตราการรอดของลูกกุ้งต่ำ ปัญหาผลผลิตที่ได้ไม่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและเป็นผลผลิตที่ไม่สามารถรอการจำหน่ายได้ ดังนั้นโดยอาศัยผลการวิจัยครั้งนี้ พอจะเสนอแนะข้อปฏิบัติได้ดังนี้ ประการแรกผู้เพาะเลี้ยงลูกกุ้งก้ามกรามควรจะหาความรู้เพิ่มเติมแก่ตนเองเกี่ยวกับการผลิตและการตลาด ประการที่สอง ควรจะพยายามพิจารณาอย่างจริงจังในการจัดตั้งสหกรณ์ผู้เพาะเลี้ยงลูกกุ้ง เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสมาชิกในการกำหนดราคาขาย การตลาดและการแลกเปลี่ยนข่าวสารต่างๆ ประการที่สาม หน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้องควรมีบทบาทมากกว่าที่เป็นอยู่ในการส่งเสริมอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงลูกกุ้งก้ามกราม โดยการให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ ได้แก่เงินกู้ระยะสั้น เงินกู้ระยะยาว โดยคิดดอกเบี้ยในอัตราต่ำ ให้ความช่วยเหลือด้านวิชาการและด้านการประชาสัมพันธ์

Share

COinS