Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การเปรียบเทียบค่าสถิติของมาตราเจตคติแบบลิคเคิต เมื่อใช้เทคนิคการสุ่มเมตริกพหุคูณกับการสุ่มผู้สอบ

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A comparison of the statistics of likert attitude scale using multiple matrix sampling and examinee sampling techniques

Year (A.D.)

1985

Document Type

Thesis

First Advisor

ดิเรก ศรีสุโย

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

วิจัยการศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1985.325

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายที่จะเปรียบเทียบเทคนิคการสุ่มผู้สอบกับเทคนิคการสุ่มเมตริกพหุคูณ โดยเปรียบเทียบค่ามัชฌิมเลขคณิต ความแปรปรวน และค่าสัมประสิทธิ์ แอลฟาของครอนบาค จากเทคนิควิธีทั้ง 2 แบบนี้ เครื่องมือที่ใช้สำหรับรวบรวมข้อมูลเป็นแบบวัดเจตคติต่อสภาพแวดล้อมทางโรงเรียนตามแนวแบบของลิคเคิต มีจำนวน 80 ข้อกระทงสำหรับใช้ในการสุ่มผู้สอบและจำแนกเป็น 4 ฉบับย่อย ฉบับละ 20 ข้อสำหรับใช้กับเทคนิคการสุ่มเมตริกพหุคูณ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้เป็นนักเรียนโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี จำนวน 2663 คน เป็นการสุ่มตัวอย่างสำหรับการสุ่มผู้สอบ 354 คน และเป็นกลุ่มตัวอย่างสำหรับการสุ่มเมตริกพหุคูณ 2309 คน การคำนวณค่าสถิติเบื้องต้นคือค่ามัชฌิมเลขคณิต ความแปรปรวนและสัมประสิทธิ์แอลฟา สำหรับการสุ่มผู้สอบใช้เทคนิคการคำนวณตามปกติ สำหรับค่าสถิติจากการสุ่มตัวอย่างเมตริกพหุคูณนั้นคำนวณจากการประมาณค่าซึ่งพัฒนามาใช้เพื่อวิธีของเมตริกพหุคูณโดยเฉพาะ ส่วนการเปรียบเทียบค่ามัชฌิมเลขคณิต ความแปรปรวนและค่าสัมประสิทธิ์แอลฟานั้นใช้การทดสอบค่าทีของเวลช์-แอสปิน การทดสอบค่าเอฟ และการทดสอบค่าซีตามลำดับ ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. ค่ามัชฌิมเลขคณิตที่ได้จากเทคนิคการสุ่มตัวอย่างทั้งสองแบบไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 2. ค่าความแปรปรวนซึ่งคำนวณได้จากเทคนิคการสุ่มตัวอย่างทั้งแบบการสุ่มผู้สอบและแบบการสุ่มเมตริกพหุคูณไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 3. ค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค ซึ่งคำนวณจากเทคนิคการสุ่มตัวอย่างทั้งแบบการสุ่มผู้สอบและการสุ่มเมตริกพหุคูณไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

Share

COinS