Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
องค์ประกอบที่สัมพันธ์กับนิสัยรักการอ่านของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในกรุงเทพมหานคร
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Factors related to reading habits of mathayom suksa one students in Bangkok Metropolis
Year (A.D.)
1985
Document Type
Thesis
First Advisor
ทวีวัฒน์ ปิตยานนท์
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
ครุศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
วิจัยการศึกษา
DOI
10.58837/CHULA.THE.1985.323
Abstract
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบทางด้านสถานภาพทางเศรษฐกิจสังคมและสภาพแวดล้อมทางบ้าน องค์ประกอบทางด้านตัวนักเรียน และองค์ประกอบทางด้านโรงเรียน กับนิสัยรักการอ่านของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่หนึ่งในกรุงเทพมหานคร ในลักษณะของการอธิบายความแปรปรวนและการทำนาย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่หนึ่ง สุ่มจากท้องที่การศึกษาต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร จำนวน 974 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสำรวจนิสัยในการอ่านแบบสอบถามสถานภาพทางเศรษฐกิจสังคมและสภาพแวดล้อมทางบ้าน แบบสำรวจข้อมูลของโรงเรียนวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบเพิ่มหรือลดตัวแปรเป็นขั้นๆ ด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป SFSS-X ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่า 1.ตัวทำนายที่มีความสัมพันธ์ในทางบวกกับนิสัยรักการอ่าน คือ ประสบการณ์การส่งเสริมการอ่านจากทางบ้าน ประสบการณ์การส่งเสริมการอ่านจากทางโรงเรียน ลักษณะการซื้อวารสาร นิตยสารอ่านในบ้าน ลักษณะการซื้อหนังสือพิมพ์อ่านในบ้าน และระดับการศึกษาของบิดา โดยมีความสัมพันธ์อยู่ในระดับปานกลางและต่ำ เรียงตามลำดับ ส่วนตัวทำนายที่มีความสัมพันธ์ในทางลบกับนิสัยรักการอ่านได้แก่ รายการโทรทัศน์ที่ชอบดูมากที่สุดประเภทรายการเด็กและการ์ตูน โดยมีความสัมพันธ์อยู่ในระดับต่ำ 2. เมื่อพิจารณาจากองค์ประกอบทางด้านสถานภาพทางเศรษฐกิจสังคมและสภาพแวดล้อมทางบ้านเพียงด้านเดียว ได้ตัวทำนายที่ดีที่สุดประกอบด้วย ลักษณะการซื้อวารสาร นิตยสารอ่านในบ้าน ระดับการศึกษาของบิดา อาชีพที่ต้องใช้วิชาชีพของบิดา ลักษณะการซื้อหนังสือพิมพ์อ่านในบ้าน ลักษณะของบ้านพักอาศัยที่เป็นตึกแถว อาชีพรับราชการของบิดา และอาชีพรับจ้าง ลูกจ้างของมารดา ตัวทำนายทั้งหมดนี้สามารถร่วมกันอธิบายความแปรปรวนของนิสัยรักการอ่านได้ร้อยละ 12 3. เมื่อพิจารณาจากองค์ประกอบทางด้านตัวนักเรียน พบว่า ตัวทำนายที่ดีที่สุดประกอบด้วย ประสบการณ์การส่งเสริมการอ่านจากทางบ้าน ประสบการณ์การส่งเสริมการอ่านจากทางโรงเรียน รายการโทรทัศน์ที่ชอบดูมากที่สุดประเภทรายการข่าวในประเทศและต่างประเทศ รายการเด็กและการ์ตูน และประเภทรายการละครหรือภาพยนตร์ ปริมาณเวลาที่ต้องช่วยทำงานบ้านต่อสัปดาห์ ตัวทำนายทั้งหมดนี้สามารถร่วมกันอธิบายความแปรปรวนของนิสัยรักการอ่านได้ร้อยละ 36 4. เมื่อพิจารณาจากองค์ประกอบทางด้านโรงเรียน พบว่า ตัวทำนายที่ดีที่สุดประกอบด้วย จำนวนหนังสือพิมพ์ วารสาร นิตยสาร ที่บอกรับเป็นประจำ บรรยากาศในห้องสมุดตามการรับรู้ของนักเรียน อัตราส่วนพื้นที่ห้องสมุดต่อจำนวนนักเรียนทั้งหมด และอัตราส่วนจำนวนหนังสือในห้องสมุดต่อจำนวนนักเรียนทั้งหมด ตัวทำนายทั้งหมดนี้สามารถร่วมกันอธิบายความแปรปรวนของนิสัยรักการอ่านได้ร้อยละ8 5.เมื่อพิจารณาจากทั้ง 3 องค์ประกอบร่วมกัน พบว่า ตัวทำนายที่มีความสำคัญที่สุดในการอธิบายความแปรปรวนของนิสัยรักการอ่าน ได้แก่ ประสบการณ์การส่งเสริมการอ่านจากทางบ้าน ส่วนตัวทำนายที่มีความสำคัญในอันดับรองลงไป ได้แก่ ลักษณะการซื้อวารสาร นิตยสารอ่านในบ้าน ประสบการณ์การส่งเสริมการอ่านจากทางโรงเรียน รายการโทรทัศน์ที่ชอบดูมากที่สุดประเภทรายการข่าวในประเทศและต่างประเทศ ปริมาณเวลาที่ต้องช่วยทำงานบ้านต่อสัปดาห์ อาชีพรับราชการของบิดา รายการโทรทัศน์ที่ชอบดูมากที่สุดประเภทรายการเกมส์ แข่งขัน ตอบปัญหา อาชีพที่ต้องใช้วิชาชีพของบิดา จำนวนบุคคลที่อาศัยอยู่ในบ้าน เวลาให้บริการของห้องสมุดแต่ละวัน และรายการโทรทัศน์ที่ชอบดูมากที่สุดประเภทรายการเด็กและการ์ตูน ตามลำดับ โดยกลุ่มตัวทำนายที่ดีที่สุดทั้งหมดนี้สามารถร่วมกันอธิบายความแปรปรวนของนิสัยรักการอ่านของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่หนึ่งได้ร้อยละ 39
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
เดชาเลิศ, ทวีศักดิ์, "องค์ประกอบที่สัมพันธ์กับนิสัยรักการอ่านของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในกรุงเทพมหานคร" (1985). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 48706.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/48706