Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
การเปรียบเทียบความคิดเห็นของนักศึกษากับอาจารย์ผู้สอน เกี่ยวกับหลักสูตรวิชาเอกการพัฒนาชุมชน ระดับประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูงของวิทยาลัยครู
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
A comparison of students' and instructors' opionions concerning the curriculum in the area of community development at the higher certificate of education level in teachers colleges
Year (A.D.)
1985
Document Type
Thesis
First Advisor
รัตนา พุ่มไพศาล
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
ครุศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
วิจัยการศึกษา
DOI
10.58837/CHULA.THE.1985.315
Abstract
วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1. เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบความคิดเห็นของนักศึกษากับอาจารย์ผู้สอนในด้านความมุ่งหมาย เนื้อหาวิชาบังคับและวิชาเลือก การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และการวัดผล ประเมินผล เกี่ยวกับหลักสูตรวิชาเอกการพัฒนาชุมชน ระดับประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูง ของสภาการฝึกหัดครูพุทธศักราช 2524 2. เพื่อศึกษาเปรียบเทียบความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุผลที่นักศึกษาเลือกศึกษาวิชาเอกการพัฒนาชุมชน ระหว่างนักศึกษาชายและนักศึกษาหญิง วิธีดำเนินการวิจัย ตัวอย่างประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือนักศึกษาวิชาเอกการพัฒนาชุมชน ระดับประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูงปีที่ 2 ปีการศึกษา 2526 และอาจารย์ผู้สอนในวิทยาลัยครูทั้ง 12 แห่ง รวมจำนวนทั้งสิ้น 588 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้าง โดยแบ่งเป็น 3 ตอน คือตอนที่ 1 เป็นสถานภาพส่วนตัวของผู้ตอบแบบสอบถาม ตอนที่ 2 เป็นคำถามความคิดเห็นเกี่ยวกับหลักสูตรด้านความมุ่งหมาย ด้านเนื้อหา ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และด้านการวัดผลประเมินผล ตอนที่ 3 เป็นคำถามความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุผลที่นักศึกษาชายและนักศึกษาหญิงเลือกศึกษาวิชาเอกการพัฒนาชุมชน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าร้อยละ มัชฌิมเลขคณิต ( x̅ ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( S.D) และค่า t (t-test) แล้วนำเสนอในรูปตารางและอธิบายประกอบ ผลการวิจัย 1. นักศึกษาและอาจารย์ผู้สอนได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับหลักสูตร วิชาเอกการพัฒนาชุมชน ในระดับประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูง ในด้านต่าง ๆ ดังนี้ 1.1 ความมุ่งหมายของหลักสูตร นักศึกษาและอาจารย์ผู้สอนมีความคิดเห็นว่าความมุ่งหมายของหลักสูตรมีความเหมาะสมมาก อาทิเช่น ความมุ่งหมายของหลักสูตรกำหนดไว้ได้สอดคล้องกับนโยบายของการฝึกหัดครูทั้ง 5 ประการ เหมาะสมกับสภาพของสังคมปัจจุบัน มีความสอดคล้องกับหลักจิตวิทยาในการเรียนรู้เป็นอย่างดี เน้นให้ผู้เรียนสามารถนำไปปฏิบัติได้ สามารถบรรลุในการผลิตครูให้ไปเป็นผู้นำของท้องถิ่น ในการพัฒนาชุมชนของตนได้ 1.2 ด้านเนื้อหาวิชาบังคับ ก นักศึกษาและอาจารย์ผู้สอนมีความเห็นด้วยมากเป็นส่วนใหญ่ อาทิเช่น เนื้อหาวิชาสามารถให้นักศึกษาบรรลุความมุ่งหมายของหลักสูตรในระดับประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูง เนื้อหารายวิชามีความยากง่ายเหมาะสมกับระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูง เนื้อหารายวิชามีความซ้ำซ้อนกันบ้าง เนื้อหารายวิชาเลือก 11 หน่วยกิต ให้ความรู้กว้างพอสำหรับนักศึกษาวิชาเอกการพัฒนาชุมชน ฯลฯ เนื้อหาวิชาบังคับ ข 5 รายวิชา นักศึกษาและอาจารย์ผู้สอนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับที่ว่า เนื้อหาย่อยทุกเรื่องเป็นเนื้อหาที่มีความสำคัญและมีประโยชน์ แต่มีความไม่เหมาะสมเล็กน้อย ต้องเปลี่ยนแปลงแก้ไขเล็กน้อยก็จะทำให้เนื้อหาสมบูรณ์ขึ้น นอกจากเรื่องทฤษฎีทางสังคมศาสตร์กับการพัฒนาชุมชนเพียงเรื่องเดียวที่อาจารย์ผู้สอนเห็นว่าเป็นเนื้อหาที่มีความสำคัญ และมีประโยชน์แต่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขให้เหมาะสมมากโดยไม่ให้เนื้อหาผลิตไปจากเรื่องเดิม 1.3 ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน นักศึกษาและผู้สอนมีความคิดเห็นว่าวิธีสอนและกิจกรรมที่อาจารย์ปฏิบัติตามมีหลายประการ อาทิเช่น อาจารย์ผู้สอนศึกษาหลักสูตรและกำหนดจุดประสงค์ของบทเรียนก่อนสอนทุกวิชา วิทยาลัยได้จัดรายวิชาเลือกให้นักศึกษาตลอดหลักสูตรเพื่อมิให้เกิดความยุ่งยากในการจัดกระบวนการเรียนการสอน วิธีสอนส่วนใหญ่เป็นแบบบรรยาย ฯลฯ นักศึกษาและอาจารย์ผู้สอนมีความคิดว่า กิจกรรมที่อาจารย์ใช้น้อย คือ สื่อการเรียนการสอนที่เป็นหุ่นจำลอง 1.4 ด้านการวัดผลประเมินผล นักศึกษาและอาจารย์ผู้สอนมีความคิดเห็นว่ากิจกรรมที่อาจารย์ผู้สอนปฏิบัติมากมีหลายประการ อาทิเช่น การวัดผลสอดคล้องกับความมุ่งหมายและเนื้อหาของหลักสูตร การวัดผลประเมินผลควรทำเป็น 2 ระยะ คือ กลางภาคเรียน และปลายภาคเรียน อาจารย์ผู้สอนประเมินผลการเรียนการสอน และกิจกรรมอย่างอื่น ๆ ที่มอบหมายให้นักศึกษา การประเมินผลเป็นหน้าที่ของอาจารย์ผู้สอนแต่เพียงผู้เดียว และนักศึกษาได้รับความยุติธรรมในการตัดเกรด นักศึกษาและอาจารย์ผู้สอนมีความคิดเห็นว่า กิจากรรมที่อาจารย์ผู้สอนปฏิบัติน้อย คือ การวัดผลตอนปลายภาคเรียนไม่ใช่ข้อสอบข้อเขียนแต่ใช้การประเมินผลจากผลงานอื่น ๆ วิธีการวัดผลตอนปลายภาคเรียนที่ใช้น้อย คือ เปิดตำราตอบ สอบปากเปล่า เขียนตอบจากบ้าน และการจัดนิทรรศการหรือจัดสัมมนา เมื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของนักศึกษากับอาจารย์ผู้สอน ปรากฏว่า ความคิดเห็นด้านเนื้อหาวิชาบังคับ ก และวิชาบังคับ ข ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ด้านการวัดผลประเมินผล ปรากฏว่า ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 แต่ด้านความมุ่งหมายของหลักสูตร ความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 โดย นักศึกษามีความคิดเห็นว่า ความมุ่งหมายของหลักสูตรมีความเหมาะสมมากอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยสูงกว่าความคิดเห็นของอาจารย์ผู้สอน 2. การศึกษาเปรียบเทียบความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุผลที่นักศึกษาชาย และนักศึกษาหญิงเลือกศึกษาวิชาเอกการพัฒนาชุมชน ปรากฏว่า ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 ทั้งนักศึกษาชายและนักศึกษาหญิงคิดว่าเหตุผลที่ใช้มากในการเลือกศึกษาวิชาเอกการพัฒนาชุมชน คือ เป็นวิชาที่น่าสนใจเพราะสอดคล้องกับสถานการณ์ของประเทศในปัจจุบัน และคิดว่าเหตุผลที่ใช้น้อยที่สุด คือ เลือกเรียนวิชาเอกนี้ เพราะ ไม่ทราบว่าจะเลือกเรียนวิชาเอกใดดี
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
มั่นนาค, เพ็ญศรี, "การเปรียบเทียบความคิดเห็นของนักศึกษากับอาจารย์ผู้สอน เกี่ยวกับหลักสูตรวิชาเอกการพัฒนาชุมชน ระดับประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูงของวิทยาลัยครู" (1985). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 48698.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/48698