Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

กระบวนการสอนเพื่อสร้างลักษณะการคิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Instructional process for enhancing the capability of thinking, doing and solving problems of prothom suksa six students

Year (A.D.)

1985

Document Type

Thesis

First Advisor

สมพงษ์ จิตระดับ

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

ประถมศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1985.188

Abstract

วัตถุประสงค์ของการวิจัย การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์คือ ( 1 ) เพื่อทดลองกระบวนการสอนเพื่อสร้างลักษณะการคิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น ในเรื่อง กฎหมาย หน้าที่และความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคมตามกฎหมาย ( 2 ) เพื่อศึกษาลักษณะและพฤติกรรมที่เกิดจากกระบวนการสอนเพื่อสร้างลักษณะการคิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น ในเรื่องดังกล่าว วิธีดำเนินการวิจัย การวิจัยครั้งนี้ดำเนินการโดยวิธีทดลองกับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียน บ้านเขื่อนสุนทร อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ จำนวน 50 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง 25 คน กลุ่มควบคุม 25 คน เลือกโดยวิธีพิจารณานักเรียนห้องที่มีคะแนนเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของวิชาสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตใกล้เคียงกัน กลุ่มทดลองเรียนโดยใช้แผนการสอนตามกระบวนการสอนที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น โดยใช้เนื้อหากลุ่มสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต หน่วยที่ 4, 5 และ 11 กลุ่มควบคุมสอนด้วยแผนการสอนของกระทรวงศึกษาธิการเป็นเวลา 5 สัปดาห์ ทดสอบหลังสอนกลุ่มตัวอย่างทั้ง 2 กลุ่มด้วยแบบวัดการคิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น นำคะแนนที่ได้มาทดสอบความแตกต่าง โดยการทดสอบค่า ที ( t – test ) ผลการวิจัย 1. นักเรียนกลุ่มตัวอย่างที่เรียนด้วยแผนการสอนตามกระบวนการสอนที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีความสามารถในการคิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น แตกต่างจากนักเรียนกลุ่มที่เรียนด้วยแผนการสอนของกระทรวงศึกษาธิการอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยนักเรียนกลุ่มทดลองที่ได้รับการสอนตามกระบวนการสอนที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีความสามารถในการคิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็นสูงกว่านักเรียนกลุ่มควบคุมที่ได้รับการสอนตามแผนการสอนของกระทรวงศึกษาธิการ 2. พฤติกรรมที่เกิดจากกระบวนการสอนเพื่อสร้างลักษณะการคิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น พฤติกรรมที่เกิดมากที่สุดคือ พฤติกรรมการยอมรับ มติของกลุ่ม จำนวนร้อยละ 88.85 พฤติกรรมที่เกิดมากเป็นอันดับรองลงมาคือ พฤติกรรมการให้ความร่วมมือ จำนวนร้อยละ 88.00 ส่วนพฤติกรรมที่เกิดน้อยที่สุดคือพฤติกรรมการเสียสละ จำนวนร้อยละ 30.66

Share

COinS