Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การบริหารงานการประถมศึกษาของคณะกรรมการการประถมศึกษาจังหวัดในภาคกลาง

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

The primary education administration of the Provincial Primary Education Committee in central region

Year (A.D.)

1985

Document Type

Thesis

First Advisor

อมรชัย ตันติเมธ

Second Advisor

สนานจิตร สุคนธทรัพย์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

บริหารการศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1985.113

Abstract

วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1. เพื่อศึกษาการบริหารงานการประถมศึกษาของคณะกรรมการประถมศึกษาจังหวัดในภาคกลาง 2. เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษาที่มีขนาดโรงเรียนต่างกัน เกี่ยวกับการบริหารงานการประถมศึกษาของคณะกรรมการประถมศึกษาจังหวัดในภาคกลาง 3. เพื่อศึกษาปัญหาและอุปสรรคของการบริหารงานการประถมศึกษาของคณะกรรมการประถมศึกษาจังหวัดในภาคกลาง วิธีการดำเนินการวิจัย กลุ่มตัวอย่างประชากรที่ใช้การวิจัยครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มคือผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษาในภาคกลาง ขนาดเล็ก ขนาดกลางและขนาดใหญ่รวม 13 จังหวัดโดยการสุ่มแบบหลายขั้นตอน รวมทั้งสิ้น 361 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย แบ่งเป็น 2 แบบคือ แบบวิเคราะห์รายงานการประชุมและแบบสอบถามความคิดเห็นแบบการตรวจสอบรายการ และแต่ละข้อมีคำถามปลายเปิดประกอบด้วยสถานภาพของผู้ตอบแทนสอบถาม ความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารงาน ปัญหาและอุปสรรคในการบริหารงานจองคณะกรรมการประถมศึกษาจังหวัด รวม 7 ด้าน 1. การกำหนดนโยบายและแผนพัฒนาการประถมศึกษาของจังหวัด 2. การตั้งและจัดสรรงบประมาณ เพื่อการประถมศึกษา 3. การจัดตั้ง การบริหาร รวม ปรับปรุง และเลิกล้มโรงเรียน 4. การแต่งตั้งหัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอ/กิ่งอำเภอ และผู้บริหารสถานศึกษา 5. การพิจารณาความดีความชอบประจำปีของข้าราชการครู 6. การออกระเบียบเกี่ยวกับการปฏิบัติงานในหน้าที่ 7. ปฏิบัติการอื่นตามที่กฎหมายกำหนดและตามที่คณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติมอบหมาย แบบสอบถามที่ส่งไปจำนวน 361 ฉบับ ได้รับกลับคืน 295 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 81.72 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้วิธีหาค่าร้อยละ และหาค่ามัชฌิมเลขคณิต และส่วนเบี่ยงมาตรฐานและเปรียบเทียบความคิดเห็นระหว่างกลุ่ม และวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว (ANOVA) สรุปผลการวิจัย 1. จาการวิเคราะห์รายงานการประชุม พบว่ามีการประชุมกรรมการประถมศึกษาจังหวัด 245 เรื่อง เรื่องที่อภิปรายมากที่สุดคือเรื่องการย้ายและแต่งตั้งผู้บริหารโรงเรียน เป็นที่น่าสังเกตว่า กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (แต่งตั้ง) มาประชุมและอภิปรายน้อยมาก ส่วนผู้ที่มาประชุมทุกครั้งคือ ผู้อำนวยการการประถมศึกษาจังหวัด 2. จากแบบสอบถามความคิดเห็น ตอนที่ 1 สถานภาพ พบว่า ผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษาส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีวุฒิระดับ ปริญญาตรี อายุราชการ 21 ปีขึ้นไป และอยู่ในตำแหน่งผู้บริหารระหว่าง 1-5 ปี ตอนที่ 2 ความคิดเห็น พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เห็นว่า มีการพิจารณากำหนด นโยบายการดำเนินงานและมีแผนพัฒนาการประถมศึกษาจังหวัด ซึ่งนโยบายและแผนที่กำหนดขึ้นสอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่น ส่วนการจัดตั้งและจัดสรรงบประมาณก็เป็นไปตามขนาดของโรงเรียนซึ่งมีความเหมาะสมการจัดตั้ง รวม ปรับปรุง และเลิกล้มโรงเรียนส่วนใหญ่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ซึ่งมีผลกระทบต่อบุคลากรในโรงเรียนและชุมชนบ้าง การพิจารณาแต่งตั้ง ย้ายผู้บริหารโรงเรียน หัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอ/กึ่งอำเภอ และการพิจารณาความดีความชอบส่วนใหญ่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการประถมศึกษาแห่งชาติ การออกระเบียบที่เกี่ยวกับการปฏิบัติงานในหน้าที่แก้ปัญหาได้น้อย และในส่วนที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามที่คณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติมอบหมายนั้นเป็นไปอย่างเหมาะสม และสอดคล้องกับท้องถิ่น เมื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียน ทั้ง 3 ขนาด พบว่า มีความคิดเห็นแตกต่างกัน 6 ข้อใน จำนวน 37 ข้อ ซึ่งได้แก่ 1 ) ระเบียบและหลักเกณฑ์ในการพิจารณาความดีความชอบที่กำหนดเพิ่มเติม โดยคณะกรรมการการประถมศึกษาจังหวัดไม่เหมาะสม 2 ) เมื่อพิจารณาความดีความชอบแล้วไม่มีการเสนอแนะโรงเรียน 3 ) คณะกรรมการการประถมศึกษาได้ออกระเบียบเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน 4 ) ระเบียบคณะกรรมการการประถมศึกษากำหนดขึ้นไม่สอดคล้องกับระเบียบของคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ 5 ) ระเบียบดังกล่าวไม่สามรถแก้ปัญหาได้ 6 ) การกำหนดอายุเด็กเข้าเรียนตามพระราชบัญญัติประถมศึกษา พ.ศ. 2523 คณะกรรมการการประถมศึกษาจังหวัด คำนึงถึงความสอดคล้องกับสภาพท้องถิ่น ตอนที่ 3 การวิเคราะห์ปัญหาพบว่า งานทั้ง 7 ด้าน มีปัญหาในการปฏิบัติงานในระดับน้อย และจากแบบสอบถามปลายเปิดพบว่า 3.1 การกำหนดนโยบาย และการทำแผนข้อมูลมาประกอบการพิจารณาน้อย 3.2 การพิจารณาจัดสรรงบประมาณไม่เป็นไปตามความต้องการของโรงเรียน 3.3 การยุบรวม เลิกล้มโรงเรียนมีปัญหาบ้างเล็กน้อย 3.4 การแต่งตั้ง ย้าย ผู้บริหารโรงเรียนและหัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอ/กึ่งอำเภอมักมีการวิ่งเต้นหาความช่วยเหลือ 3.5 การพิจารณาความดีความชอบ มักมีการเล่นพรรคเล่นพวกอยู่บ้าง 3.6 การออกระเบียบบางอย่างไม่ค่อยชัดเจน

Share

COinS