Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
ความสนใจและความต้องการในการอ่านวารสารทางบรรณารักษศาสตร์ ของบรรณารักษ์ห้องสมุดมหาวิทยาลัย ในกรุงเทพมหานคร
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Reading interests and needs for library science journals of university librarians in Bangkok Metropolis
Year (A.D.)
1985
Document Type
Thesis
First Advisor
นงลักษณ์ ไม่หน่ายกิจ
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
อักษรศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
บรรณารักษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์
DOI
10.58837/CHULA.THE.1985.676
Abstract
วัตถุประสงค์หลักของการวิจัยเรื่องนี้มี 3 ประการ คือ 1) เพื่อศึกษาความสนใจในการอ่าน/ความถี่และเวลาที่ใช้ในการอ่าน ปริมาณการอ่าน เรื่องที่อ่าน ตลอดจนจุดมุ่งหมาย และแรงจูงใจในการอ่านวารสารทางบรรณารักษศาสตร์ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ของบรรณารักษ์ห้องสมุดมหาวิทยาลัยในกรุงเทพมหานคร 2) ศึกษาความต้องการของบรรณารักษ์ห้องสมุดมหาวิทยาลัยในการอ่านเรื่อง (Subject) ต่างๆ ในวารสาร เพื่อเป็นข้อเสนอแนะในการจัดทำวารสารทางบรรณารักษศาสตร์ของไทยให้สอดคล้องกับความต้องการมากยิ่งขึ้น และ 3) เพื่อศึกษาปัญหาและอุปสรรคในการอ่าน รวมทั้งข้อเสนอแนะที่จะเป็นแนวทางในการจัดทำวารสาร และส่งเสริมการอ่านวารสารทางบรรณารักษศาสตร์ของบรรณารักษ์ห้องสมุดมหาวิทยาลัย สมมุติฐานการวิจัยครั้งนี้มี 4 ประการ คือ 1) บรรณารักษ์ส่วนใหญ่ใช้เวลาสำหรับการอ่านวารสารทางบรรณารักษศาสตร์น้อย 2) บรรณารักษ์ส่วนใหญ่ชอบอ่านวารสารทางบรรณารักษศาสตร์ภาษาไทยมากกว่าวารสารภาษาอังกฤษ 3) บรรณารักษ์ห้องสมุดมหาวิทยาลัยที่มีวุฒิสูงกว่าระดับปริญญาตรีขึ้นไปมีความสนใจในเรื่องที่อ่านไม่แตกต่างไปจากบรรณารักษ์ที่มีวุฒิระดับปริญญาตรี 4) บรรณารักษ์ห้องสมุดมหาวิทยาลัยกลุ่มงาน เทคนิค และบรรณารักษ์กลุ่มงานบริการ มีความสนใจในเรื่องที่อ่านแตกต่างกัน วิธีวิจัยใช้วิธีการวิจัยเชิงสำรวจ และเครื่องมือที่ใช้เก็บข้อมูลคือ แบบสอบถามโดยรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มประชากรที่เป็นบรรณารักษ์ในห้องสมุดกลางของมหาวิทยาลัยในกรุงเทพมหานคร 9 แห่ง จำนวน 161 คน (ทั้งนี้ไม่นับผู้ที่กำลังศึกษาต่อ) และได้รับแบบสอบถามกลับคืนมา 146 ชุด คิดเป็น 90.7 เปอร์เซ็นต์ การวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากแบบสอบถามใช้สถิติ ความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ T-test โดยการใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติด้านสังคมศาสตร์ ผลการวิจัยสรุปได้ว่า 1) ในรอบปีที่ผ่านมามีบรรณารักษ์เพียงส่วนน้อย เท่านั้นที่ไม่เคยอ่านวารสารทางบรรณารักษศาสตร์เลย บรรณารักษ์ส่วนใหญ่ใช้เวลาสำหรับการอ่านวารสารทางบรรณารักษศาสตร์น้อย ความถี่ที่ใช้คือ อ่าน 2-3 เดือนต่อครั้ง และเดือนละครั้งซึ่งผลการศึกษาส่วนนี้สนับสนุนสมมุติฐานข้อ 1 ส่วนปริมาณการอ่านของบรรณารักษ์มีน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนวารสารมากมายที่มีการจัดพิมพ์ บรรณารักษ์ส่วนใหญ่อ่านวารสารทางบรรณารักษศาสตร์ภาษาไทยมากกว่าภาษาอังกฤษ ผลการศึกษาส่วนนี้สนับสนุนสมมุติฐานข้อ 2 วารสารทางบรรณารักษศาสตร์ภาษาไทย และภาษาอังกฤษที่ได้รับความสนใจมาเป็นอันดับ 1 ได้แก่ วารสารห้องสมุด ของสมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทย และวารสาร College & Research Libraries ลักษณะการอ่านเรื่องต่างๆ ในวารสารทางบรรณารักษศาสตร์พบว่า ส่วนใหญ่อ่านเรื่องที่สนใจ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับงานที่ตนปฏิบัติ อ่านข่าวต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับห้องสมุด และวงการวิชาชีพบรรณารักษ์ ตลอดจนอ่านชื่อเรื่องที่หน้าสารบาญ จุดมุ่งหมายในการอ่านที่บรรณารักษ์ให้ความสำคัญมากที่สุดคือ เพื่อเพิ่มพูนความรู้ทางวิชาการบรรณารักษศาสตร์และสาขาที่เกี่ยวข้อง ส่วนแรงจูงใจที่ทำให้บรรณารักษ์สนใจอ่านคือ การตระหนักถึงความจำเป็นของการอ่านวารสารทางวิชาชีพของตน 2) บรรณารักษ์ห้องสมุดมหาวิทยาลัยวุฒิปริญญาตรี และสูงกว่าปริญญาตรี มีความสนใจในเรื่องที่อ่านส่วนใหญ่ไม่แตกต่างกัน ผลการศึกษาประเด็นนี้รับกับสมมุติฐานข้อ 3 เป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้บรรณารักษ์กลุ่มงานเทคนิคและกลุ่มงานบริการมีความสนใจในเรื่องที่อ่านส่วนใหญ่ไม่แตกต่างกัน ผลการศึกษาประเด็นนี้ไม่รับกับสมมุติฐานข้อ 4 3) ปัญหาและอุปสรรคในการอ่านที่บรรณารักษ์ประสบมากที่สุด คือ งานที่ตนปฏิบัติและรับผิดชอบอยู่ มีล้นมือจนไม่มีเวลาอ่าน สำหรับข้อเสนอแนะในการส่งเสริมการอ่านวารสารทางบรรณารักษศาสตร์ที่บรรณารักษ์จำนวนมากที่สุดต้องการให้จัดมีขึ้น คือการจัดให้มีการประชุม อภิปราย ให้คำแนะนำเกี่ยวกับวรรณกรรมทางวิชาชีพ โดยความร่วมมือระหว่างห้องสมุดและสถาบันที่เปิดสอนวิชาบรรณารักษศาสตร์นอกจากนี้บรรณารักษ์จำนวนมากที่สุดยังเห็นด้วยกับข้อเสนอแนะในการปรับปรุงด้านเนื้อหาสาระในวารสารควรลงเรื่องที่น่าสนใจ ทันสมัย และมีประโยชน์อย่างมากต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องในวงการวิชาชีพ ประโยชน์ของวิทยานิพนธ์เรื่องนี้ นอกจากจะได้ทราบถึงความสนใจและความต้องการในการอ่านวารสารทางบรรณารักษศาสตร์ของบรรณารักษ์ห้องสมุดมหาวิทยาลัยโดยทั่วไปแล้ว ยังสามารถนำไปเป็นแนวทางในการจัดทำวารสารทางบรรณารักษ์ศาสตร์ของไทย ตลอดจนทราบข้อเสนอแนะที่จะเป็นแนวทางในการส่งเสริมการอ่านวารสารทางวิชาชีพของบรรณารักษ์ด้วย
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
อัศวประเสริฐดี, สมใจ, "ความสนใจและความต้องการในการอ่านวารสารทางบรรณารักษศาสตร์ ของบรรณารักษ์ห้องสมุดมหาวิทยาลัย ในกรุงเทพมหานคร" (1985). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 48394.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/48394