Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
การเลือกซื้อหนังสือสำหรับเด็กของผู้ปกครองนักเรียน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 และประถมศึกษาปีที่ 3 ในโรงเรียนสาธิตของมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยครู ในเขตกรุงเทพมหานคร
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Parents' book selection for children, grade 2 and 3, at the university and the teacher college demonstration schools in Bangkok metropolitan area
Year (A.D.)
1985
Document Type
Thesis
First Advisor
กล่อมจิตต์ พลายเวช
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
อักษรศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
บรรณารักษศาสตร์
DOI
10.58837/CHULA.THE.1985.663
Abstract
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ มีความมุ่งหมายที่จะสำรวจสภาพการเลือกซื้อหนังสือสำหรับเด็กของผู้ปกครองนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 และประถมศึกษาปีที่ 3 ในโรงเรียนสาธิตของมหาวิทยาลัย และวิทยาลัยครู ในเขตกรุงเทพมหานคร ตลอดจนศึกษาปัญหาในการเลือกซื้อ แนวทางที่ผู้ปกครองใช้ในการพิจารณาเลือกซื้อหนังสือสำหรับเด็ก เปรียบเทียบแนวทางในการพิจารณาเลือกซื้อหนังสือสำหรับเด็กของผู้ปกครองที่มีระดับการศึกษา อาชีพและรายได้ที่แตกต่างกัน และศึกษาความคิดเห็นของผู้ปกครองต่อหนังสือสำหรับเด็กวัย 6 - 9 ขวบ ในปัจจุบัน ตัวอย่างประชากรเป็นผู้ปกครองของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 และประถมศึกษาปีที่ 3 ในโรงเรียนสาธิตของมหาวิทยาลัยในเขตกรุงเทพมหานคร 3 แห่ง และโรงเรียนสาธิตของวิทยาลัยครูในเขตกรุงเทพมหานคร 3 แห่ง ใช้วิธีสุ่มแบบธรรมดา ( Simple Random Sampling ) โดยในแต่ละโรงเรียนสุ่มผู้ปกครองของนักเรียน 1 ห้องเรียนทุกระดับชั้น ( ป.2 – ป.3 ) ได้ตัวอย่างประชากรทั้งสิ้น 520 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม ได้รับแบบสอบถามกลับคืนมาทั้งสิ้นจำนวน 433 ชุด ข้อมูลที่ได้นำมาวิเคราะห์โดยหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. ผู้ปกครองสนับสนุนและส่งเสริมการอ่านแก่เด็กโดยวิธีการซื้อหนังสือสำหรับเด็กให้อ่านมากที่สุด หนังสือที่ซื้อส่วนใหญ่มีรายละเอียดดังนี้ เป็นหนังสือที่ให้ความบันเทิง เป็นหนังสือประเภทเทพนิยายและนิทานพื้นเมือง เนื้อเรื่องให้คติเตือนใจ สอนให้ใฝ่ดี ประพฤติดีมากที่สุด ส่วนหนังสือสารคดีที่ผู้ปกครองซื้อมีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับความรู้รอบตัวมากที่สุด มีรูปแบบการเขียนเป็นร้อยแก้ว เป็นหนังสือปกอ่อน มีรูปเล่มเป็นแบบสี่เหลี่ยมแนวตั้ง ไม่จำกัดขนาดและความหนาของหนังสือ พิมพ์ด้วยกระดาษปอนด์ มีภาพประกอบเป็นภาพสี ขนาดตัวอักษรที่ใช้พิมพ์เป็นอักษรขนาดกลาง (ประมาณ 24 พอยท์ครึ่ง) มีราคาระหว่าง 10 -20 บาท ปัญหาอันดับหนึ่งในการเลือกซื้อหนังสือสำหรับเด็กคือ หนังสือสำหรับเด็กส่วนใหญ่ไม่ระบุว่าเหมาะสมกับเด็กวัยใด จึงไม่แน่ใจว่าซื้อไปแล้วเด็กจะสนใจ รองลงมาคือหนังสือสำหรับเด็กส่วนมากมีราคาแพง 2. ในการเลือกซื้อหนังสือ ผู้ปกครองส่วนใหญ่ตัดสินใจเองแต่พิจารณาความสนใจของเด็กประกอบด้วย สิ่งที่ผู้ปกครองคำนึงถึงมากที่สุดหรือพิจารณาเป็นอันดับแรกคือ เนื้อเรื่องของหนังสือ ซึ่งต้องเป็นเรื่องที่ดีน่าสนใจในความเห็นของผู้ปกครอง นอกจากนั้นจะต้องมีลักษณะสำคัญคือตรงกับความสนใจของเด็ก และเนื้อเรื่องไม่ยากเกินไปสำหรับเด็ก นอกจากนี้ผู้ปกครองยังพิจารณาองค์ประกอบอื่น ๆ ตามลำดับคือ ด้านการใช้ภาษาจะต้องใช้คำสุภาพ ตัวสะกดการันต์ถูกต้อง ไม่ใช้คำยากเกินความเข้าใจของเด็ก ด้านภาพประกอบจะต้องเป็นภาพที่สอดคล้องกับเรื่อง ภาพอธิบายเนื้อเรื่องได้ช่วยให้เนื้อหาชัดเจนขึ้น ลักษณะของภาพถูกต้องเหมาะสมกับเรื่อง ด้านราคาต้องมีราคาไม่แพงเกินไป ด้านลักษณะรูปเล่ม ตัวอักษรต้องโตเหมาะกับสายตาของเด็ก มีลักษณะอ่านง่าย การจัดภาพ คำบรรยายและเนื้อที่ว่างแต่ละหน้าเหมาะสม นอกจากนี้จะต้องเป็นหนังสือที่เหมาะสมกับความสามารถในการอ่านของบุตรหลาน และมีวิธีเขียนชวนติดตาม องค์ประกอบที่ผู้ปกครองพิจารณาน้อยหรืออาจจะไม่พิจารณาเลยได้แก่ ผู้เขียน ผู้วาดภาพประกอบ และสำนักพิมพ์ สำหรับการศึกษาเปรียบเทียบแนวทางในการพิจารณาเลือกซื้อหนังสือสำหรับเด็กของผู้ปกครองที่มีระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ที่แตกต่างกันนั้น ผู้วิจัยไม่สามารถทำการศึกษาได้ด้วยข้อจำกัดที่ว่าข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้ในด้านของตัวแปรดังกล่าวมีการกระจายในสัดส่วนที่ไม่เหมาะสม พอที่จะทำให้การวิเคราะห์ข้อมูลเชื่อถือได้ 3. ผู้ปกครองมีความคิดเห็นว่าหนังสือสำหรับเด็กวัย 6 -9 ขวบ ในปัจจุบันมีคุณภาพอยู่ในระดับดีทั้งในด้านเนื้อเรื่อง ภาพประกอบ การใช้ภาษาและลักษณะรูปเล่ม เนื้อเรื่องของหนังสือสำหรับเด็กประเภทให้ความบันเทิงที่ผู้ปกครองคิดว่าควรมีเพิ่มเติมมากที่สุดคือเรื่องที่สอนการปรับตัวและการดำรงชีวิตในสังคม ส่วนประเภทสารคดี ผู้ปกครองคิดว่า ควรเพิ่มเติมเรื่องชีวประวัติมากที่สุด รูปเล่มที่ผู้ปกครองคิดว่าเหมาะสมกับหนังสือสำหรับเด็กมากที่สุดคือ สี่เหลี่ยมแนวตั้งและแนวนอน หนังสือสำหรับเด็กควรมีกิจกรรมท้ายเล่มให้เด็กได้ทำหรือร่วมสนุก ผู้ปกครองมีความเห็นว่าหนังสือสำหรับเด็กควรมีราคาระหว่าง 10 -20 บาท มากที่สุด ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะต่อผู้ปกครอง บรรณารักษ์ ผู้เขียน ผู้วาดภาพประกอบและสำนักพิมพ์ดังนี้ ในการเลือกซื้อหนังสือสำหรับเด็ก ผู้ปกครองควรพิจารณาจากความสนใจของเด็กเป็นอันดับแรก ไม่ใช่ความคิดเห็นของตนเป็นหลัก ซึ่งจะช่วยให้ผู้ปกครองซื้อหนังสือได้ตรงกับความสนใจของเด็กมากที่สุด บรรณารักษ์ควรมีส่วนช่วยผู้ปกครองในการเลือกซื้อหนังสือสำหรับเด็ก โดยการช่วยแนะนำหรือประชาสัมพันธ์หนังสือดีและเหมาะสมกับวัยของเด็กให้ผู้ปกครองทราบ จะได้เป็นแนวทางในการเลือกซื้อหนังสือ ผู้เขียน ผู้วาดภาพประกอบและสำนักพิมพ์ ควรร่วมมือกันผลิตหนังสือสำหรับเด็กให้มีคุณภาพดีทั้งในด้านเนื้อเรื่องและภาพประกอบ ระบุอายุที่เหมาะสมกับเด็กไว้ในหนังสือด้วย จัดทำกิจกรรมท้ายเล่มให้เด็กได้ทำหรือร่วมสนุก ผลิตหนังสือที่มีรูปเล่มแปลก ๆ น่าสนใจและมีเนื้อหาหลายประเภทต่างกันไป ผู้ปกครองจะได้เลือกหนังสือได้ตรงกับความสนใจของเด็กมากที่สุด พยายามให้หนังสือสำหรับเด็กมีราคาพอเหมาะเพื่อว่าผู้ปกครองส่วนใหญ่จะได้สามารถซื้อให้บุตรหลานอ่านได้ และสำนักพิมพ์ควรจัดพิมพ์รายชื่อหนังสือสำหรับเด็กออกเผยแพร่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อประโยชน์ของผู้ปกครองในการเลือกซื้อหนังสือสำหรับเด็กต่อไป
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
วงศ์สุนทรเลิศ, สุพร, "การเลือกซื้อหนังสือสำหรับเด็กของผู้ปกครองนักเรียน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 และประถมศึกษาปีที่ 3 ในโรงเรียนสาธิตของมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยครู ในเขตกรุงเทพมหานคร" (1985). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 48381.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/48381