Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

กฎหมายคุมประพฤติผู้ใหญ่ในประเทศไทย

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Adult Probation Law in Thailand

Year (A.D.)

1985

Document Type

Thesis

First Advisor

วีระพงษ์ บุญโญภาส

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

นิติศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

นิติศาสตร์

DOI

10.58837/CHULA.THE.1985.398

Abstract

ประมวลกฎหมายอาญาได้มีบทบัญญัติ เกี่ยวกับการคุมประพฤติผู้ใหญ่มานานแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2499 แต่ศาลไม่สามารถใช้ประโยชน์จากบทบัญญัติดังกล่าวเพราะไม่มีหน่วยงานและบุคลากรที่รับผิดชอบในการปฏิบัติงานคุมประพฤติผู้ใหญ่ จนพระทั่งในปี พ.ศ. 2519 กระทรวงยุติธรรมได้รับมอบหมายให้ดำเนินการนำระบบคุมประพฤติผู้ใหญ่มาใช้ จึงได้มีการจัดตั้งสำนักงานคุมประพฤติกลางขึ้น เพื่อทำหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินงานคุมความประพฤติผู้กระทำผิดที่เป็นผู้ใหญ่ และมีโครงการจะขยายงานออกไปสู่ส่วนภูมิภาคให้ตลอดทั่วประเทศในอนาคตอันใกล้ แต่จากการดำเนินงานในทางปฏิบัติปรากฏว่ากฎหมายที่วางหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการคุมประพฤตินั้นมีบทบัญญัติที่บกพร่อง และไม่เหมาะสมหลายประการอันเป็นอุปสรรคอย่างยิ่งต่อการปฏิบัติงาน อีกทั้งไม่สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของการคุมประพฤติ เช่น บทบัญญัติเกี่ยวกับกระบวนการสืบเสาะและพินิจเพื่อทำรายงานก่อนศาลพิพากษาอันจัดเป็นขั้นตอนหนึ่งที่มีความสำคัญมาก และกระทบต่อผลสำเร็จของการคุมประพฤตินั้น ศาลมิได้นำมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ทั้งที่เป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับการตัดเลือกเพื่อที่จะได้ผู้ถูกคุมความประพฤติที่เหมาะสม และตั้งใจจริงที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนด ผลคือทำให้มีผู้ถูกคุมความประพฤติที่ไม่เหมาะสมและผู้ถูกคุมความประพฤติประเภทนี้จะพ้นการคุมความประพฤติด้วยดีน้อยกว่าพวกที่ได้ถูกคัดเลือกโดยกระบวนการสืบเสาะ นอกจากนี้ทางด้านกระบวนการสอดส่องนั้นก็เกิดข้อขัดข้องในการปฏิบัติงาน เพราะเงื่อนไขที่ศาลจะกำหนดให้ผู้ถูกคุมความประพฤติปฏิบัติตามนั้นมีจำกัดเกินไปคือเพียง 3 ข้อเท่านั้น แต่ในการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดแต่ละรายจำเป็นจะต้องช่วยเหลือแก้ไขในปัญหาที่แต่ละคนประสบอยู่ เงื่อนไขทั้ง 3 ข้อดังกล่าวจึงไม่สามารถที่จะครอบคลุมไปได้ถึง การดำเนินการค้นคว้าในเรื่องนี้ได้ทำโดยการรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการคุมประพฤติ รวมทั้งการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิมีความรู้เชี่ยวชาญ ในที่สุดสามารถสรุปได้ว่าการคุมประพฤติเป็นวิธีการที่มีความสำคัญ และก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งด้านตัวผู้กระทำผิดและสังคม แต่สมควรมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายโดยเปลี่ยนแปลงหลักการในการสั่งสืบเสาะและพินิจใหม่ และขยายขอบเขตของเงื่อนไขคุมความประพฤติให้กว้างยิ่งขึ้น เพื่อให้การดำเนินงานคุมประพฤติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แนวทางปรับปรุงแก้ไขกฎหมายดังกล่าวอาจเป็นที่มาของกฎหมายที่เกี่ยวกับการคุมประพฤติที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นในอนาคต

Share

COinS