Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การพัฒนามโนภาพแห่งตนโดยการใช้กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Development of self-concept through group process activities of prathom suksa five students

Year (A.D.)

1986

Document Type

Thesis

First Advisor

ทิศนา แยมมณี

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

ประถมศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1986.183

Abstract

วัตถุประสงค์ของการวิจัย การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1. เพื่อศึกษามโนภาพแห่งตนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก่อนและหลังการใช้กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ 2. เพื่อเปรียบเทียบมโนภาพแห่งตนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้รับและไม่ได้รับการฝึกกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ วิธีการดำเนินการวิจัย การวิจัยครั้งนี้ดำเนินการโดยวิธีทดลองกับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนศรีเอี่ยมอนุสรณ์ เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร ปีการศึกษา 2528 จำนวน 60 คน เลือกกลุ่มตัวอย่าง โดยวิธีสุ่มตัวอย่างแบบง่าย คือการจับสลากจากนักเรียนจำนวน 129 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง 30 คน และกลุ่มควบคุม 30 คนแล้วเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยมโนภาพแห่งตนของนักเรียนทั้งสองกลุ่มก่อนการทดลองโดยการทดสอบค่าที (t-test) ปรากฏว่านักเรียนทั้งสองกลุ่มมีมโนภาพแห่งตนไม่แตกต่างกันที่ระดับนัยสำคัญ .05 จากนั้นทดลองฝึกกลุ่มสัมพันธ์กับกลุ่มทดลองด้วยกิจกรรมที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นทั้งหมด 11 กิจกรรม กิจกรรมทั้งหมดมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยนักเรียนพัฒนาทัศนคติที่ดีต่อตนเอง ยอมรับตนเองและมีความคิดเห็นต่อตนเองในทางบวก ใช้เวลาฝึกสัปดาห์ละ 3 ครั้ง รวมเวลาที่ใช้ฝึกทั้งหมด 33 คาบ ส่วนกลุ่มควบคุมให้เรียนรู้จากสิ่งแวดล้อมปกติ เมื่อสิ้นสุดการทดลอง ทดสอบมโนภาพแห่งตนของนักเรียนทั้งสองกลุ่มด้วยแบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับตนเอง ซึ่ง จุไรรัตน์ เปรมัษเฐียร ได้แปลและดัดแปลงมาจากแบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับตนเองของเพียร์และแฮรีส (The Piers Harris Children’s Self-Concept Scale) จำนวน 80 ข้อ เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยมโนภาพแห่งตนระหว่างนักเรียนกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลองและค่าเฉลี่ยมโนภาพแห่งตนของนักเรียนกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมระหว่างก่อนและหลังการทดลอง โดยการทดสอบค่าที (t-test) ผลการวิจัย 1. นักเรียนกลุ่มทดลองที่ได้รับการฝึกกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์มีมโนภาพแห่งตนในทางบวกสูงกว่านักเรียนกลุ่มควบคุมที่ไม่ได้รับการฝึกกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 2. นักเรียนกลุ่มทดลองที่ได้รับการฝึกกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์มีมโนภาพแห่งตนในทางบวกหลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3. นักเรียนกลุ่มควบคุมที่ไม่ได้รับการฝึกกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์มีมโนภาพแห่งตนหลังการทดลองไม่แตกต่างจากก่อนการทดลองที่ระ ดับนัยสำคัญ .05 4. ในการศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับตนเองในด้านต่างๆ ของนักเรียนกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม พบว่าเมื่อสิ้นสุดการทดลอง นักเรียนกลุ่มทดลองส่วนใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงความคิดเห็นเกี่ยวกับตนเองไปในทางบวก ส่วนกลุ่มควบคุมนั้นพบว่าก่อนและหลังการทดลองนักเรียนส่วนใหญ่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับตนเองคงสภาพเดิม

Share

COinS