Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การประเมินโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการเรียนการสอน ของครูประถมศึกษา : การฝึกอบรมนำร่องในภาคตะวันออก

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A project evaluation of improvement of teaching efficiency of primary school teachers : pilot training organized in the Eastern region

Year (A.D.)

1986

Document Type

Thesis

First Advisor

สุมน อมรวิวัฒน์

Second Advisor

สมหวัง พิธิยานุวัฒน์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

ประถมศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1986.172

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ทั่วไปเพื่อประเมินโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการเรียนการสอนของครูประถมศึกษา โดยศึกษาเฉพาะกรณีการฝึกอบรมนำร่องในภาคตะวันออก สำหรับวัตถุประสงค์ของการประเมิน มีดังนี้คือ 1. เพื่อประเมินกระบวนการพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมครูประถมศึกษาในโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการเรียนการสอนของครูประถมศึกษา 2. เพื่อประเมินพฤติกรรมของผู้เข้ารับการฝึกอบรม ในขณะฝึกอบรมนำร่องในภาคตะวันออก 3. เพื่อประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการฝึกอบรม ของผู้เข้ารับการฝึกอบรมนำร่องในภาคตะวันออก 4. เพื่อประเมินความเชื่อเกี่ยวกับแนวพัฒนาการเรียนการสอนของครูผู้เข้ารับการฝึกอบรมนำร่องในภาคตะวันออก 5. เพื่อประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เข้ารับการฝึกอบรมนำร่องในภาคตะวันออก 6. เพื่อติดตามประเมินผลผู้เข้ารับการฝึกอบรมนำร่องในภาคตะวันออกในด้านการนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ในการปฏิบัติงาน นอกจากนี้ผู้วิจัยยังได้ศึกษาสภาพการสนับสนุนส่งเสริมและอุปสรรคจากการฝึกอบรมไปใช้ในการปฏิบัติงานของครูผู้เข้ารับการฝึกอบรมนำร่องในภาคตะวันออกด้วยกลุ่มตัวอย่างเป็นครูผู้เข้ารับการฝึกอบรมนำร่อง จำนวน 98 คน และนักเรียนจำนวน 60 คน ในกลุ่มโรงเรียนบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี วิธีการประเมินโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการเรียนการสอนของครูประถมศึกษา ซึ่งศึกษาเฉพาะการฝึกอบรมนำร่องในภาคตะวันออก มีดังนี้คือ 1. วิเคราะห์กระบวนการ พัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรม โดยกำหนดเกณฑ์ไว้ว่า วัตถุประสงค์ของหลักสูตรการฝึกอบรมมีความสอดคล้องกับความจำเป็นในการฝึกอบรมทุกประการ และการฝึกอบรมนำร่องในภาคตะวันออกมีกระบวนการจัดเตรียมการฝึกอบรมครบถ้วนตามกระบวนการฝึกอบรมเป็นสากล 2. สังเกตพฤติกรรมของผู้เข้ารับการฝึกอบรมนำร่องในภาคตะวันออก ในขณะฝึกอบรม โดยกำหนดเกณฑ์ไว้ว่า ผู้เข้ารับการฝึกอบรมทุกคนมีส่วนร่วมในการฝึกอบรมทุกกิจกรรมของการฝึกอบรม ตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ 3. สอบถามความพึงพอใจของผู้เข้ารับการฝึกอบรมนำร่องในภาคตะวันออกที่มีต่อการฝึกอบรม โดยกำหนดเกณฑ์ไว้ว่า ผู้เข้ารับการฝึกอบรมอย่างต่ำ 75% มีความพึงพอใจที่ดีต่อการฝึกอบรมในแต่ละข้อของแบบสอบถาม 4. วัดความเชื่อเกี่ยวกับแนวพัฒนาการเรียนการสอนและหลังการฝึกอบรม โดยกำหนดเกณฑ์ไว้ว่า ค่าเฉลี่ยของการวัดความเชื่อหลังการฝึกอบรมมากกว่าก่อนการฝึกอบรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 5. ทดสอบความรู้ก่อนและหลังการฝึกอบรม โดยกำหนดเกณฑ์ไว้ว่าค่าเฉลี่ยของการทดสอบหลังการฝึกอบรมมากกว่าก่อนการฝึกอบรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และมากกว่ากันอย่างต่ำ 15% ของคะแนนเต็ม 6. สอบถามครูผู้สอนเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน สังเกตการณ์จัดกิจกรรมการเรียนการสอนของครูจำนวน 12 คน และสัมภาษณ์นักเรียนจำนวน 60 คน เกี่ยวกับการเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนการสอน หลังจากที่ครูผ่านการฝึกอบรมไปแล้วเป็นเวลา 1 เดือน โดยกำหนดเกณฑ์ไว้ว่า ครูจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามวัตถุประสงค์อย่างน้อย 80% ของกิจกรรมที่ระบุในโครงการฝึกอบรม 7. สอบถามครูเกี่ยวกับสภาพการสนับสนุนส่งเสริมและอุปสรรคต่อการนำความรู้จากการฝึกอบรมไปใช้ ในการปฏิบัติงานของครูผู้เข้ารับการฝึกอบรมนำร่องภาคตะวันออก ผลการประเมินโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการเรียนการสอนของครูประถมศึกษา ซึ่งศึกษาเฉพาะการฝึกอบรมนำร่องในภาคตะวันออกมีดังนี้คือ 1. วัตถุประสงค์ของการฝึกอบรมสอดคล้องกับความจำเป็นในการฝึกอบรมทุกประการ และมีกระบวนการจัดเตรียมการฝึกอบรมครบถ้วนตามระบบการฝึกอบรมที่เป็นสากล ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 2. ผู้เข้ารับการฝึกอบรมนำร่องในภาคตะวันออก มีส่วนร่วมในกิจกรรมการฝึกอบรมทุกกิจกรรมโดยเฉลี่ย 95.41% ซึ่งยังไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด 3. ผู้เข้ารับการฝึกอบรมนำร่องในภาคตะวันออกมีความพึงพอใจที่ดีต่อการฝึกอบรม 24 ข้อในจำนวนที่กำหนด 28 ข้อซึ่งยังไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด 4. ผู้เข้ารับการฝึกอบรมนำร่องในภาคตะวันออกมีความเชื่อเกี่ยวกับแนวพัฒนาการเรียนการสอนหลังการฝึกอบรมมากกว่าก่อนการฝึกอบรม5. ผู้เข้ารับการฝึกอบรมนำร่องในภาคตะวันออกมีความรู้หลังการฝึกอบรมมากกว่าก่อนการฝึกอบรม เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ แต่คะแนนเฉลี่ยก่อนและหลังการฝึกอบรมเพิ่มขึ้นไม่ถึง 15% 6. ผู้เข้ารับการฝึกอบรมนำร่องในภาคตะวันออก จัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามวัตถุประสงค์ของการฝึกอบรมตั้งแต่ 81.25% ถึง 96.62% ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้สำหรับผลการศึกษาสภาพการสนับสนุนส่งเสริมและอุปสรรค ต่อการนำความรู้จากการฝึกอบรมไปใช้ในการปฏิบัติงานของครูผู้เข้ารับการฝึกอบรมนำร่องในภาคตะวันออก พบว่าผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการเรียนการสอนไปในทางที่ดีขึ้นอยู่ในระดับมาก ส่วนการได้รับการนิเทศการเรียนการสอนการสนับสนุนทางด้านวิชาการ การบำรุงขวัญและกำลังใจและการประเมินประสิทธิภาพการเรียนการสอนของครู พบว่ามีการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลางและผู้เข้ารับการฝึกอบรมส่วนใหญ่เห็นว่า การจัดอัตราเวลาสอนมีความเหมาะสมอยู่ในระดับปานกลาง

Share

COinS