Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การวิเคราะห์วิธีการประเมินผลงานของพนักงานในธนาคารพาณิชย์ไทย

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

An analysis of performance appraisal methods in Thai Commercial Banks

Year (A.D.)

1986

Document Type

Thesis

First Advisor

สวนา พรพัฒน์กุล

Second Advisor

ไพลิน ผ่องใส่

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

บริหารธุรกิจ

DOI

10.58837/CHULA.THE.1986.436

Abstract

วิทยานิพนธ์ฉบับนี้จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์สำคัญ 1) เพื่อวิเคราะห์วิธีการและเกณฑ์ในการประเมินผลงานในธนาคารพาณิชย์ทั้งที่มีขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก ซึ่งรวมถึงการวิเคราะห์หลักการและขั้นตอนต่างๆ ในการประเมินผลงาน ตลอดจนข้อดีและข้อเสียของการประเมินผลงานด้วยเกณฑ์ต่างๆ นั้น 2) เพื่อศึกษาทัศนคติต่อการประเมินผลงานของพนักงานในธนาคารพาณิชย์ขนาดต่างๆ ในการดำเนินการศึกษา ได้มีการวิจัยจากเอกสารและการวิจัยจากแบบสอบถามโดยสอบถามความคิดเห็นของผู้ประเมินและผู้ถูกประเมินในธนาคารพาณิชย์ขนาดต่างๆ เพื่อศึกษาว่า มีทัศนคติและความคิดเห็นต่อระบบการประเมินผลงานในธนาคารพาณิชย์อย่างไรและยังมีการวิจัยจากการสัมภาษณ์ โดยใช้แบบฟอร์มในการสัมภาษณ์เพื่อสอบถามเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพนักงานเกี่ยวกับระบบการประเมินผลงานในธนาคารพาณิชย์ขนาดต่างๆ ทั้งยังได้นำเอาแบบฟอร์มสำหรับประเมินผลงานของธนาคารพาณิชย์ขนาดต่างๆ มาทำการวิเคราะห์ประกอบด้วย ซึ่งจะทำให้ผลการวิเคราะห์น่าเชื่อถือมากขึ้น ผลจากการวิจัยพบว่า วิธีการในการประเมินผลงานของธนาคารพาณิชย์แต่ละขนาดไม่แตกต่างกัน แต่ธนาคารขนาดใหญ่และธนาคารขนาดเล็ก จะมีตัวเกณฑ์ที่ใช้ในการประเมินผลงานมากกว่าธนาคารขนาดกลาง และตัวเกณฑ์หรือปัจจัยที่ธนาคารพาณิชย์ให้ความสำคัญมากที่สุดในการใช้พิจารณาประเมินผลงานก็คือ คุณภาพงาน ความรู้ความสามารถ ความรับผิดชอบ ต่องานในหน้าที่ และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ นอกจากนี้ ยังพอสรุปได้ว่า ธนาคารพาณิชย์มีการประเมินผลงานที่เป็นระบบโดยมีการใช้แบบฟอร์มประเมินผลงาน การกำหนดเกณฑ์มาตรฐานในการปฏิบัติงาน การชี้แจงเกี่ยวกับคำบรรยายลักษณะงาน การแจ้งผลการประเมิน และการติดตามผลการประเมิน แม้จะมีในบางธนาคารที่มีระบบประเมินผลงานยังไม่ถูกต้องสมบูรณ์ตามหลักวิชาการก็ตาม สำหรับทัศนคติต่อระบบประเมินผลงานของผู้ถูกประเมินพบว่า ผู้ถูกประเมินส่วนใหญ่เห็นถึงความจำเป็นและมีความต้องการให้มีการประเมินผลงาน ซึ่งแสดงว่าผู้ถูกประเมินมีทัศนคติที่ดีต่อการประเมินผลงาน อย่างไรก็ตาม ระบบประเมินผลงานของธนาคารพาณิชย์ก็ยังมีบางส่วนไม่ถูกต้องสมบูรณ์ จึงจำเป็นอย่างยิ่งในการหาแนวทางเพื่อปรับปรุงและแก้ไขปัญหา ตลอดจนลดข้อผิดพลาดในการประเมินผลงาน ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้ 1.ธนาคารพาณิชย์ควรมีจำนวนของแบบฟอร์มสำหรับประเมินผลงานให้ครอบคลุมโดยจำแนกตามลักษณะงานที่แตกต่างกัน และตามระดับตำแหน่งหน้าที่งาน เพื่อลดความไม่เป็นธรรมในการประเมินผลงาน 2.ธนาคารพาณิชย์ควรจะได้มีการพัฒนา ปรับปรุง รูปแบบและตัวเกณฑ์ในแบบฟอร์มสำหรับประเมินผลงานให้เหมาะกับสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป 3. ธนาคารพาณิชย์ควรจะให้ผู้บังคับบัญชาที่ทำหน้าที่ประเมินผล และผู้ใต้บังคับบัญชาที่ถูกประเมินมีส่วนร่วมและรับรู้ร่วมกันกำหนดมาตรฐานของการปฎิบัติงานกรณีที่เป็นไปได้ เพื่อก่อให้เกิดการยอมรับและความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย 4.ธนาคารพาณิชย์ควรมีการประเมินผลงานอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อลดข้อผิดพลาดในการประเมินผลงานจากตัวผู้ประเมินในเรื่องการประเมินผลงานเป็นไปตามเหตุการณ์เฉพาะหน้า ไม่ใช่ผลการปฎิบัติงานตลอดงวดของการดำเนินงานนั้น 5.ธนาคารพาณิชย์ควรกำหนดให้มีผู้ประเมินมากกว่า 1 คน โดยให้ผู้บังคับบัญชาโดยตรง 1 คน และผู้บังคับบัญชาในระดับเดียวกัน ซึ่งมีส่วนงานเกี่ยวข้องกับผู้ถูกประเมินอีก 1 คน และระดับสูงขึ้นไปอีก 1 คน เป็นผู้ประเมิน โดยใช้แบบฟอร์มสำหรับประเมินผลงานคนละชุดกัน เพื่อลดอคติที่เกิดจากผู้ประเมินลงได้ 6. ธนาคารพาณิชย์ควรมีการชี้แจงเกี่ยวกับแบบแสดงลักษณะงานของพนักงานเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อการประเมินผลงานจะได้มีมาตรฐานมากขึ้น 7.ธนาคารพาณิชย์ควรมีการแจ้งผลการประเมินให้ผู้ถูกประเมินได้ทราบ เพื่อพัฒนาตนเอง โดยผู้ประเมินใช้วิธีการหารือที่นุ่มนวล เพื่อลดการขัดแย้งระหว่างผู้ประเมินและผู้ถูกประเมิน 8. ธนาคารพาณิชย์ควรเปิดโอกาสให้ผู้ถูกประเมินได้แสดงความคิดเห็นอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรเมื่อไม่เห็นด้วยกับการประเมิน เพื่อจะได้มีโอกาสทำความเข้าใจซึ่งกันและกันระหว่างผู้ประเมินและผู้ถูกประเมิน

Share

COinS