Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
ความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะส่วนตัวและแรงจูงใจเนื่องจากความคาดหวังในงานกับความพึงพอใจในงานของครูโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตการศึกษา 3
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Relationships between personal characteristics, work expectancy motivation and job satisfaction of secondary school teachers in educational region three
Year (A.D.)
1986
Document Type
Thesis
First Advisor
อมรชัย ตันติเมธ
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
ครุศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
บริหารการศึกษา
DOI
10.58837/CHULA.THE.1986.137
Abstract
วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1. เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะส่วนตัวกับความพึงพอใจในงานของครูโรงเรียนมัธยมศึกษา ในเขตการศึกษา 3 2. เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจเนื่องจากความคาดหวังในงานกับความพึงพอใจในงานของครูโรงเรียนมัธยมศึกษา ในเขตการศึกษา 3 สมมติฐานของการวิจัย 1. ครูโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตการศึกษา 3 ที่มีลักษณะส่วนตัวแตกต่างกันมีความพึงพอใจในงานแตกต่างกัน 2. แรงจูงใจเนื่องจากความคาดหวังในงานมีความสัมพันธ์ในทางบวกกับความพึงพอใจในงานของครูโรงเรียนมัธยมศึกษา ในเขตการศึกษา 3 วิธีดำเนินการวิจัย กลุ่มตัวอย่างประชากรที่ใช้ในการวิจัยคือ ครูฝ่ายปฏิบัติการสอนในโรงเรียนมัธยมศึกษา ในเขตการศึกษา 3 สุ่มตัวอย่างโรงเรียนจากโรงเรียนที่มีขนาดแตกต่างกัน 4 ขนาด โดยวิธีแบ่งเป็นพวกหรือชั้น หาขนาดของกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางของมอร์แกนและทำการสุ่มตัวอย่างครูปฏิบัติการสอนโดยวิธีสุ่มตัวอย่างแบบธรรมดาจากโรงเรียนที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง รวมกลุ่มตัวอย่างประชากรทั้งสิ้น 332 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามซึ่งมีลักษณะเป็นแบบตรวจสอบรายการ แบบเติมคำลงในช่องว่าง แบบมาตราส่วนประเมินค่า ผู้วิจัยได้วิเคราะห์แบบสอบถามตอนที่ 2 ซึ่งเป็นแบบสอบถามวัดแรงจูงใจเนื่องจากความคาดหวังในงานโดยใช้วิธีการวิเคราะห์ความแปรปรวน ได้สัมประสิทธิ์ของความเชื่อมั่นของแบบสอบถามส่วนนี้เท่ากับ .91 การเก็บรวบรวมข้อมูล ใช้วิธีส่งและรับคืนด้วยตนเองและทางไปรษณีย์ ในจำนวนแบบสอบถามที่ส่งไป 332 ฉบับ ได้รับคืนเป็นฉบับที่สมบูรณ์ 302 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 90.96 การวิเคราะห์ใช้การหาค่า ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว และใช้สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน เป็นสถิติที่ใช้อธิบายถึงระดับของความสัมพันธ์ ผลการวิจัย 1. ระดับของแรงจูงใจเนื่องจากความคาดหวังในงานของครูโรงเรียนมัธยมศึกษา ในเขตการศึกษา 3 อยู่ในระดับปานกลาง 2. ระดับของความพึงพอใจในงานของครูโรงเรียนมัธยมศึกษา ในเขตการศึกษา 3 อยู่ในระดับปานกลาง 3. ผลลัพธ์หรือผลตอบแทนที่เป็นสาเหตุให้เกิดแรงจูงใจเนื่องจากความคาดหวังอยู่ในระดับมาก 7 ประการคือ ได้ความภาคภูมิใจในตัวเอง ได้ความเป็นมิตรจากเพื่อนร่วมงาน ได้พัฒนาทักษะและความสามารถของตัวเอง ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น ได้รับความสำเร็จของงาน การยอมรับเชื่อถือจากเพื่อนร่วมงาน ได้อิสระในการทำงาน อยู่ในระดับน้อย 4 ประการคือ ได้รับตำแหน่งการงานที่มั่นคง ได้รับการยกย่องจากผู้บังคับบัญชา ได้ทำงานที่ดีกว่าเดิม และได้เลื่อนเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษ 4. ไม่พบว่ามีตัวแปรลักษณะส่วนตัวด้านใดที่มีความสัมพันธ์กับความพึงพอใจในงานที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .05 5. องค์ประกอบทั้งสามประการของแรงจูงใจเนื่องจากความคาดหวังในงานต่างมีความสัมพันธ์ในทางบวกกับความพึงพอใจในงาน โดยองค์ประกอบในด้านความคาดหวังในโอกาสที่จะได้รับผลลัพธ์หรือผลตอบแทน มีค่าสหสัมพันธ์อยู่ในระดับสูงที่สุด 6. แรงจูงใจเนื่องจากความคาดหวังในงานมีความสัมพันธ์ในทางบวกกับความพอใจในงาน ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .05 แต่ค่าสหสัมพันธ์อยู่ในระดับต่ำ
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
ราชมณี, บรรหาร, "ความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะส่วนตัวและแรงจูงใจเนื่องจากความคาดหวังในงานกับความพึงพอใจในงานของครูโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตการศึกษา 3" (1986). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 48209.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/48209