Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
ทัศนคติของบรรณารักษ์ห้องสมุดมหาวิทยาลัย ที่มีต่อเทคโนโลยีสารนิเทศ
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Academic lobrarians' atttitudes on information technology
Year (A.D.)
1986
Document Type
Thesis
First Advisor
นงลักษณ์ ไม่หน่ายกิจ
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
อักษรศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
บรรณารักษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์
DOI
10.58837/CHULA.THE.1986.731
Abstract
วัตถุประสงค์ของการวิจัยมี 2 ประการ คือ 1) ศึกษาทัศนคติของบรรณารักษ์ห้องสมุดมหาวิทยาลัยที่มีต่อเทคโนโลยีสารนิเทศ ในด้านความคิดเห็นและความรู้สึกของบรรณารักษ์ที่มีต่อเทคโนโลยีสารนิเทศและวิชาชีพบรรณารักษ์ และ 2) เปรียบเทียบทัศนคติของบรรณารักษ์ในกลุ่มต่าง ๆ ที่มีความแตกต่างกันในด้านสภาพของการนำเทคโนโลยีสารนิเทศมาใช้ในห้องสมุด วุฒิการศึกษา ประเภทงานที่รับผิดชอบ และ ประสบการณ์การทำงาน สมมติฐานในการวิจัยมี 4 ประการ คือ 1) ทัศนคติของบรรณารักษ์ที่ทำงานในห้องสมุดที่นำเทคโนโลยีสารนิเทศมาใช้บ้างแล้ว ที่มีแผนงานจะนำมาใช้ และที่ยังไม่มีการนำมาใช้ ตลอดจนที่นำมาใช้บ้างแล้ว และมีแผนงานจะนำเทคโนโลยีสารนิเทศประเภทอื่นมาใช้ในอนาคต จะแตกต่างกัน 2) บรรณารักษ์ที่มีวุฒิการศึกษาในระดับปริญญาตรี จะมีทัศนคติต่อเทคโนโลยีสารนิเทศ แตกต่างจากบรรณารักษ์ที่มีวุฒิการศึกษาสูงกว่า 3) บรรณารักษ์ที่รับผิดชอบงานที่ต่างกัน จะมีทัศนคติต่อเทคโนโลยีสารนิเทศแตกต่างกัน และ 4) บรรณารักษ์ที่มีประสบการณ์การทำงานน้อย จะมีทัศนคติต่อเทคโนโลยีสารนิเทศแตกต่างจากบรรณารักษ์ที่มีประสบการณ์การทำงานมากกว่า วิธีวิจัย ใช้วิธีการวิจัยเชิงสำรวจ และเครื่องมือที่ใช้เก็บข้อมูล คือ แบบสอบถาม โดยรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มประชากร ซึ่งเป็นบรรณารักษ์ที่ทำงานในหอสมุดกลาง ห้องสมุดคณะ และ ห้องสมุดวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยของรัฐ ที่สังกัดทบวงมหาวิทยาลัยในกรุงเทพมหานคร จำนวน 52 แห่ง (9 สถาบัน) รวมประชากรทั้งสิ้น 314 คน โดยส่งแบบสอบถาม 314 ชุด ได้รับกลับคืนมา 281 ชุด คิดเป็นร้อยละ 89.49 การวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากแบบสอบถาม ใช้วิธีทางสถิติ โดยใช้ ความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบความแตกต่างโดยใช้ค่าที และ ค่าเอฟ โดยเฉพาะค่าเอฟ เมื่อพบว่ารายการใดแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 จะทดสอบความแตกต่างของแต่ละกลุ่มเป็นรายคู่ ด้วยวิธีของเซฟเฟ (Scheffe) การวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าวใช้โปรแกรมสำเร็จรูปสถิติทางสังคมศาสตร์ ผลการวิจัยสรุปได้ว่า บรรณารักษ์ส่วนใหญ่มีทัศนคติในทางที่ดีต่อเทคโนโลยีสารนิเทศ และบรรณารักษ์ทุกคนมีทัศนคติในทางที่ดีต่อวิชาชีพบรรณารักษ์ เป็นต้นว่า เห็นด้วยว่าเทคโนโลยีสารนิเทศช่วยให้การเผยแพร่ข้อสนเทศสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้นและบรรณารักษ์ควรร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีเพื่อให้โครงการนำเทคโนโลยีสารนิเทศมาใช้มีผลสำเร็จตามเป้าหมาย บรรณารักษ์รู้สึกไม่กลัวมากว่าเทคโนโลยีสารนิเทศโดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ จะทำให้วิชาชีพบรรณารักษ์หมดความหมายและความสำคัญในที่สุด และรู้สึกว่าการค้นหาข้อสนเทศจากคอมพิวเตอร์กระทำได้อย่างเร็วมากรวมทั้งรู้สึกว่าระบบสื่อสารข้อมูลและโทรคมนาคม คอมพิวเตอร์ และวัสดุย่อส่วน ล้วนเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ เช่นกัน นอกจากนั้น ผลจากการศึกษาพบว่า บรรณารักษ์เห็นด้วยว่า ควรมีการปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนเพื่อให้ผู้สำเร็จการศึกษาออกไปเป็นบรรณารักษ์มีความรู้พื้นฐานทางคอมพิวเตอร์ และภาควิชาบรรณารักษศาสตร์ ควรผลิตบรรณารักษ์ที่มีทักษะทางคอมพิวเตอร์ด้วย เป็นต้น เมื่อเปรียบเทียบทัศนคติของบรรณารักษ์ที่มีต่อเทคโนโลยีสารนิเทศ จำแนกตามตัวแปรอิสระ คือ สภาพของการนำเทคโนโลยีสารนิเทศมาใช้ในห้องสมุด วุฒิการศึกษา ประเภทงานที่รับผิดชอบ และประสบการณ์การทำงาน โดยตั้งสมมติฐานไว้ว่า ตัวแปรอิสระที่กล่าวข้างต้นจะมีผลทำให้ทัศนคติแตกต่างกัน แต่ผลการวิจัยส่วนใหญ่พบว่าไม่สอดคล้องกับสมมติฐาน ข้อเสนอแนะที่ได้จากการวิจัยมี 3 ประการ คือ 1) ผู้บริหารห้องสมุดควรสร้างบรรยากาศของความร่วมมือในการทำงานกับระบบใหม่ ๆ โดยจัดทำในรูปแบบต่าง ๆ ดังเช่น การให้การฝึกอบรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ ทั้งนี้เพื่อส่งผลให้การดำเนินงานนำระบบอัตโนมัติมาใช้ในห้องสมุดประสบผลสำเร็จตามเป้าหมาย 2) แก้ปัญหาหรืออุปสรรคที่สำคัญที่สุดของการนำเทคโนโลยีสารนิเทศมาใช้คือ งบประมาณห้องสมุดไม่เพียงพอ ด้วยวิธีขอความช่วยเหลือในเรื่องเงินทุนสนับสนุนหรืออุปกรณ์ทางเทคนิคใหม่ ๆ จากแหล่งเงินทุนต่างประเทศ และให้ห้องสมุดมหาวิทยาลัยทุกแห่งร่วมมือกันวางแผนระยะยาวเกี่ยวกับการนำระบบอัตโนมัติมาใช้ในลักษณะข่ายงานและ 3) ควรมีการปรับปรุงหลักสูตรบรรณารักษศาสตร์ เพื่อเตรียมบรรณารักษ์รุ่นใหม่ให้สามารถทำงานกับคอมพิวเตอร์ได้
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
เจนประภาพงศ์, ศรีอร, "ทัศนคติของบรรณารักษ์ห้องสมุดมหาวิทยาลัย ที่มีต่อเทคโนโลยีสารนิเทศ" (1986). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 48169.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/48169