Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ความรับผิดในทางอาญาของผู้สนับสนุน

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Criminal liability of the accessory

Year (A.D.)

1986

Document Type

Thesis

First Advisor

ไพฑูรย์ คงสมบูรณ์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

นิติศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

นิติศาสตร์

DOI

10.58837/CHULA.THE.1986.423

Abstract

ตามหลักทั่วไปของประมวลกฎหมายอาญาฉบับที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน บุคคลจะต้องรับโทษในทางอาญาต่อเมื่อได้กระทำการอันกฎหมายที่ใช้ในขณะนั้นบัญญัติเป็นความผิดและกำหนดโทษไว้ ตามที่บัญญัติไว้ในมาตร 2 และรวมถึงบุคคลที่ร่วมในการกระทำความผิดฐานเป็นตัวการตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 83 และยังมีกรณีที่ผู้ใดก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิดหรือที่เรียกว่าผู้ใช้ให้กระทำความผิดตามมาตร 84 หรือผู้โฆษณา หรือประกาศแก่บุคคลทั่วไปให้กระทำความผิดตามมาตร 85 ซึ่งแม้จะไม่ได้ร่วมกระทำความผิด แต่เป็นผู้ก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิดกฎหมายก็บัญญัติให้รับโทษเสมือนเป็นตัวการ หากความผิดที่ใช้หรือโฆษณานั้นได้กระทำลง แต่สำหรับกรณีผู้สนับสนุนให้กระทำความผิดตามมาตร 86 ไม่ใช่ผู้ร่วมในการกระทำความผิดหรือเป็นผู้ก่อให้บุคคลอื่นกระทำผิดแต่อย่างใด เป็นแต่เพียงกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดซึ่งยังไม่เป็นความผิดในตัวเองเป็นแต่เพียงการกระทำนั้นเป็นการให้ความช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่ผู้กระทำความผิดเท่านั้น ลักษณะสำคัญของผู้สนับสนุนก็ยังไม่ถึงขั้นเป็นความผิดอาญาในตัวการกระทำของมันเอง เว้นแต่ในบางกรณีซึ่งการกระทำอันเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกนั้นเห็นว่ามีความร้ายแรงถึงขนาด กฎหมายก็อาจบัญญัติให้เป็นความผิดฐานหนึ่งในตัวเอง เช่น ผู้ให้ความช่วยเหลือแก่อั่งยี่หรือซ่องโจร ตาม มาตรา 212 และ 214 หรืออาจจะบัญญัติให้รับโทษสูงขึ้นเท่ากับตัวการ เช่น ผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตามมาตร 111 เป็นต้น จึงเห็นได้ว่าการกระทำของผู้สนับสนุนมีความสำคัญในการกระทำผิดอยู่มาก ประกอบกับสภาพของสังคมในปัจจุบันการก่ออาชญากรรมนับวันแต่จะทวีความรุนแรงและความซับซ้อนยิ่งขึ้นซึ่งก็จะต้องมีการให้ความช่วยเหลือและให้ความสะดวกในการกระทำความผิดมากขึ้นตามไปด้วย จึงสมควรที่จะได้วิจัยถึงปัญหาของการเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิดในการกระทำความผิดอาญาให้ชัดเจนและลึกซึ้งยิ่งขึ้น เพื่อเอื้ออำนวยต่อการนำมาบังคับใช้ให้มีประสิทธิภาพ เนื่องจากหลักกฎหมายเกี่ยวกับการสนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำความผิดอาญามีหลักการและแนวความคิดแตกต่างไปจากเรื่องตัวการ ผู้ใช้ และผู้โฆษณา จึงเกิดการสับสนของผู้นำมาบังคับใช้อยู่หลายประการ เช่น 1. ในความหมายของคำว่า “อันเป็นการช่วยเหลือและให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิดนั้น" มีความหมายเพียงใด 2. กรณีเกี่ยวกับคุณสมบัติของบุคคลในความผิดบางฐานอันมีผลต่อการวินิจฉัยบุคคลนั้นจะต้องรับผิดฐานเป็นตัวการหรือผู้สนับสนุน เช่น ตามคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ได้วินิจฉัยไว้ว่า บุคคลผู้ไม่ใช่เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ได้ร่วมกระทำความผิดกับเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ถือว่า ผู้ร่วมกระทำความผิดเป็นเพียงผู้สนับสนุนไม่ใช่ตัวการ 3. ในความผิดอาญาบางฐานโดยสภาพของการกระทำจะถือว่าอาจมีการให้ความช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกได้หรือไม่ เช่น การกระทำความผิดอาญาโดยประมาท และความผิดในการครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นต้น วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มุ่งวิเคราะห์ถึงปัญหาและทางแก้ไขของปัญหาที่กล่าวข้างต้น ทั้งนี้ เพราะถ้าหากปัญหาดังกล่าวแจ่มชัดขึ้นผู้มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายสามารถนำไปปฏิบัติเพื่อติดตามผู้มีส่วนช่วยเหลือผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้สะดวกขึ้น แต่เนื่องจากความสนใจของผู้บังคับใช้กฎหมายในเรื่องผู้สนับสนุนยังมีน้อย ประกอบกับสภาพของการกระทำในการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกจะไม่ปรากฏพยานหลักฐานชัดเจนเท่ากับพยานหลักฐานในการกระทำผิดของผู้กระทำผิด จึงทำให้การดำเนินคดีต่อผู้สนับสนุนมีเพียงจำนวนน้อย เป็นเหตุให้ข้อเท็จจริงที่จะนำมาวิจัยเกี่ยวกับปัญหาผู้สนับสนุนนี้มีอยู่เพียงจำกัด ของเขตของวิทยานิพนธ์นี้จึงมุ่งวิจัยทางเอกสารเป็นหลักสำคัญ

Share

COinS