Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาศักยภาพของคลองเพื่อการแก้ไขปัญหาทางผังเมืองของกรุงเทพมหานคร

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A study of klong potentiality for the urban problems solution of Bangkok Metropolis

Year (A.D.)

1986

Document Type

Thesis

First Advisor

สุวัฒนา ธาดานิติ

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

การวางแผนภาคและเมืองมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

การวางแผนภาคและเมือง

DOI

10.58837/CHULA.THE.1986.24

Abstract

กรุงเทพฯ ในอดีตเป็นเพียงชุมชนเล็กๆ แบบเมืองมีลักษณะเป็นสังคมเกษตร และมีคลองเป็นโครงสร้างของเมือง ทำหน้าที่เอนกประสงค์ทั้งในด้านการตั้งถิ่นฐาน การดำรงชีพ และการคมนาคมขนส่ง ทั้งในระดับภาคเมืองและชุมชนจากอิทธิพลของอารยธรรมตะวันตก ในช่วงศตวรรษที่ 19 สร้างความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญแก่ประเทศทั้งในด้านกายภาพ สังคมเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในกรุงรัตนโกสินทร์การใช้ที่ดินและระบบคมนมคม จะหันมาผูกพันกับถนนมากขึ้น โดยละเลยไม่ให้ความสำคัญแก่พื้นที่คลองกรุงเทพฯ ในปัจจุบันเป็นมหานครใหญ่ และพบปัญหาเช่นเมืองใหญ่ ๆ ทั้งหลายคือ ปัญหาประชากร ปัญหาน้ำท่วม ปัญหาจราจรติดขัด ฯลฯ สภาพการณ์เช่นนี้ไม่อาจปล่อยปละละเลยได้อีก จำเป็นต้องหาแนวทางการแก้ไขโดยเร่งด่วน ซึ่งในปัจจุบัน คูคลองอันเป็นโครงสร้างเก่าแก่มาแต่เดิม ยังมีปรากฏในพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้งหมด หากแต่มีสภาพแตกต่างกันไป ตามลักษณะการใช้ที่ดินในพื้นที่นั้น ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นที่น่าสนใจอย่างยิ่งว่า คลองต่างสภาพเหล่านี้มีลักษณะปัจจุบันเป็นอย่างไร และจะนำคลองมามาช่วยแก้ไขปัญหาของเมืองได้มากน้อยเพียงใด วัตถุประสงค์ของการศึกษา 1.ศึกษาสภาพ ปัญหา ระบบโครงข่ายและความสัมพันธ์ระหว่างคลองกับชุมชนกรุงเทพมหานครในอดีตถึงปัจจุบัน 2.ศึกษาตลอดจนเสนอแนะให้คลองมีศักยภาพ ในการแก้ไขปัญหาทางผังเมืองในบริเวณกรุงเทพมหานคร ผลของการศึกษา 1.ศึกษาถึงความสัมพันธ์ระหว่างคลองกับชุมชน โดยจัดแบ่งระยะเวลาของการศึกษาออกเป็น 5 ระยะ ดังนี้คือ ระยะที่ 1 สมัยก่อนรัตนโกสินทร์ กรุงเทพฯ เป็นชุมชนเล็กๆ มีโครงสร้างทางเศรษฐกิจเพื่อยังชีพ คลองมีความสัมพันธ์กับชุมชนในทุกระดับของพื้นที่ ภาค เมือง และชุมชน โดยเฉพาะในด้านการตั้งถิ่นฐาน สาธารณูปโภค เกษตรกรรม และในด้านยุทธศาสตร์ ระยะที่ 2 สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นก่อนทำสนธิสัญญาบาวริ่ง เป็นช่วงระยะเวลาของการก่อสร้างเมือง โดยเลียนแบบความเจริญในสมัยอยุธยา วิถีชีวิตความเป็นอยู่การตั้งถิ่นฐานของคนกรุงเทพฯ การอุปโภค บริโภค จึงไม่แตกต่างจากสมัยอยุธยา คือ ผูกพันกับน้ำด้วยกันทั้งสิ้น ระยะที่ 3 สมัยหลังสนธิสัญญาบาวริ่ง ถึงรัชกาลที่ 5 เป็นช่วงที่ไทยเผชิญกับการเผยแผ่ขยายของลัทธิจักรวรรดินิยมตะวันตก ระบบเศรษฐกิจเริ่มเปลี่ยนจากการผลิตเพื่อเลี้ยงตัวเองมาเป็นเพื่อการส่งออกนโยบายของรัฐเป็นการทำนุบำรุงทั้งคลองและถนนในสมัยนี้คลองมีบทบาทมากที่สุดต่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนกรุงเทพฯ ระยะที่ 4 สมัยรัชกาลที่ 6 –พ.ศ.2500 นับเป็นการต่อเนื่องจากอิทธิพลของรัชกาลที่ 4-5 นโยบายรัฐได้เน้นการพัฒนาคมนาคมทางบก และจากการพัฒนาสาธารณูปโภค สาธารณูปการ มีผลกระทบทำให้คลองมีบทบาทลดลงแทบทุกด้าน ระยะที่ 5 พ.ศ.2500-สมัยปัจจุบัน กรุงเทพมหานครภายใต้แนวความคิดด้านระบบถนนจากที่ปรึกษาชาวอเมริกัน และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 5 ฉบับ ลักษณะเศรษฐกิจเจริญเติบโตจากภาคเกษตรกรรมมาเป็นภาคอุตสาหกรรม บทบาทคลองต่อชุมชนกรุงเทพมหานคร มิได้เปลี่ยนแปลงจากระยะที่ 4 แต่ภายหลังน้ำท่วมกรุงเทพน ในปี พ.ศ.2518 และ 2526 คลองจึงได้เริ่มมีบทบาทและทวีความสำคัญมากขึ้น 2.กรุงเทพมหานครในปัจจุบันประสบปัญหาต่าง ๆ มากมาย แต่ปัญหาที่คลองมีศักยภาพในการแก้ไขมี 3 ด้านดังนี้ ด้านการระบายน้ำและน้ำท่วม ด้านปัญหาจราจรติดขัด และด้านการขาดแคลนสวนสาธารณะเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ ด้านการระบายน้ำท่วม แนวทางการจัดระเบียบคูคลองเพื่อบรรเทาปัญหาปราการแรกคือ การปรับปรุงประสิทธิภาพของคลองโดยจัดลำดับความสำคัญของคลองเพื่อการระบายน้ำ เป็น 3 ระดับ คือ คลองหลัก คลองเสริมระบบคลองหลัก และคลองซอย โดยพิจารณาปรับปรุงด้านประตูระบายน้ำ ขุดลอกคลองที่ตื้นเขิน เปิดทางน้ำไหลคูคลอง สร้างเขื่อนริมคลอง ปรับปรุงชุมชนที่อาศัยอยู่ริมคลอง ประการที่สองคือ การขุดคลองขนานไปกับแนวถนนที่ตัดใหม่ สำหรับการระบายน้ำแทนท่อระบายน้ำ ด้านปัญหาจราจร แนวทางการจัดระเบียบคูคลองเพื่อบรรเทาปัญหาจราจรติดขัด ประการคือ การส่งเสริมการขนส่งทางน้ำในเขตแม่น้ำเจ้าพระยา ด้วยระบบเรือด่วนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา เรือข้ามผาก และเรือหางยาว โดยการปรับปรุงด้านกายภาพของคลอง ด้านการบริการ และปรับปรุงจุดต่อเชื่อมระหว่างเส้นทางคมนาคมบกและทางน้ำ ประการที่สองคือ เสนอแนะเส้นทางสัญจรระหว่างแหล่งงาน พักอาศัย แหล่งผลิต โดยให้สอดคล้องกันโครงการป้องกันน้ำของกรุงเทพมหานคร โดยการปรับปรุงคลองหลัก ขุดคลองเสริมระบบคลองหลัก และระบบโครงข่ายย่อย ด้านการขาดแคลนสวนสาธารณะเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ แนวทางการจัดพื้นที่ริมคลองเพื่อแก้ไขปัญหาสวนสาธารณะคือ การพัฒนาที่ว่างเป็นแนวยาวสองข้างคลอง เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในระดับชุมชน การพัฒนาที่ว่างเป็นจุด (Spot) บริเวณริมคลองที่มีชุมชนตั้งถิ่นฐานโดยพัฒนาเป็นสวนสาธารณะระดับท้องถิ่นได้ และการพัฒนาที่ว่างบริเวณริมคลองให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแก่ชาวไทยและชาวต่างประเทศและเพื่อให้คลองมีประสิทธิภาพสูงสุดในการประกอบการแก้ไขปัญหาด้านการระบายน้ำและน้ำท่วม ด้านจราจรติดขัด และการขาดแคลนสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ อย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องมีมาตรการต่าง ๆ ดังนี้ คือ 1.จะต้องทบทวนนโยบายการใช้คลองในกรุงรัตนโกสินทร์ทั้งหมดและกำหนดหน้าที่ วัตถุประสงค์ เป้าหมายคลองให้ชัดเจน 2.กำหนดให้มีแผนพัฒนาระบบคลองควบคู่ไปกับการพัฒนาด้านอื่น ๆ ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และแผนพัฒนากรุงเทพมหานคร 3.ปรับปรุงและออกกฎหมาย ระเบียบข้อบัญญัติต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการก่อสร้างอาคาร การกำจัดน้ำเสีย การรุกล้ำทางระบายน้ำ หรือการปรับปรุงชุมชนที่อยู่อาศัยริมคลอง 4.จัดตั้งหน่วยงานกลางที่สามารถประสานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับทางน้ำคูคลองทั้งหมด 5.ดำเนินการควบคุมการใช้ที่ดินของเมือง โดยการจัดวางผังเมืองรวม และผังเมือเฉพาะขึ้น 6.เผยแพร่ความรู้แก่ประชาชนให้รู้จักคุณค่าของคลอง และร่วมมือป้องกันรักษาคลองไว้มิให้ถูกทำลาย

Share

COinS