Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาภาวะเอเลียนเนชันในบรรดาลูกจ้างในโรงงานอุตสาหกรรม

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A study of alienation among factory employees

Year (A.D.)

1985

Document Type

Thesis

First Advisor

เสริน ปุณณะหิตานนท์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

สังคมวิทยามหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

สังคมวิทยาและมานุษยวิทยา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1985.645

Abstract

เอเลียนเนชัน หนึ่งในบรรดาหัวข้ออภิปรายสำคัญ ๆ ซึ่งเต็มไปด้วยความหมายมากที่สุดสำหรับบรรดานักวิเคราะห์วิจารณ์สังคมทั้งหลาย ได้รับการท้าทายกันอีกครั้งหนึ่งและกลายเป็นสาระสำคัญในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ซึ่งมีความเข้าใจว่าเอเลียนเนชัน เป็นแง่มุมสำคัญแง่มุมหนึ่งของชีวิตบรรดาลูกจ้างในโรงงานอุตสาหกรรมของประเทศไทย ด้วยการอาศัยเค้าโครงความคิดของคาร์ล มาร์กซเป๋นกรอบ การสืบค้นศึกษาภาวะเอเลียนเนชันโดยกรรมวิธิเชิงประจักษ์จึงได้ดำเนินไป ภายใต้สมมุติฐานการวิจัย 3 ประการที่มีความแตกต่างกัน หากแต่มีเนื้อหาสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด ดังต่อไปนี้ : 1. ยิ่งลูกจ้างรู้สึกหรือมองเห็นว่า ตนสามารถควบคุมกิจกรรมในการผลิตที่ตนเองมีส่วนเกี่ยวข้องอยู่ได้มากขึ้นเพียงใด ก็จะยิ่งปลอดจากภาวะเอเลียนเนชันได้มากขึ้นเพียงนั้น 2. ยิ่งลูกจ้างรู้สึกว่า ตนสามารถมองเห็นและระบุผลผลิตที่เกิดจากฝีมือหรือน้ำพักน้ำแรงของตนเองได้มากขึ้นเพียงใด ก็จะยิ่งปลอดจากภาวะเอเลียนเนชันได้มากขึ้นเพียงนั้น 3. ยิ่งลูกจ้างรู้สึกว่า ตนสามารถควบคุมการให้รางวัลให้เป็นไปอย่างถูกต้องยุติธรรม (ตามหลัก merit system) ได้มากขึ้นเพียงใด ก็จะยิ่งปลอดจากภาวะเอเลียนเนชันได้มากขึ้นเพียงนั้น บนพื้นฐานของการวินิจฉัยจากความรู้สึกของผู้ศึกษาวิจัยในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโอกาสในการมองเห็นและระบุได้ถึงผลงานจากน้ำพักน้ำแรงของตนเอง ในลักษณะงานประเภทต่าง ๆ ตามโรงงานอุตสาหกรรม จึงได้มีการคัดเลือกอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ มาเป็นจำนวน 4 ประเภท โดยทั้ง 4 ประเภทดังกล่าวจะเรียงลำดับตั้งแต่ระดับโอกาสมองเห็นและระบุได้ถึงผลงานจากน้ำพักน้ำแรงของตนเองจากต่ำไปจนกระทั่งสูงอย่างต่อเนื่องกันไป จากนั้นจึงสุ่มตัวอย่างลูกจ้างจากบรรดาโรงงานอุตสาหกรรมเหล่านี้ ได้มาเป็นจำนวนทั้งสิ้น 285 คน สำหรับเป็นผู้ให้ข้อมูลโดยการตอบลงในแบบทดสอบถามซึ่งประกอบด้วยคำถามต่าง ๆ ที่ผู้ศึกษาได้สร้างขึ้น เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลอันจำเป็นและเป็นที่ต้องการในการศึกษาวิจัย ผลของการศึกษาวิจัยในครั้งนี้มีลักษณะที่สนับสนุนต่อสมมุติฐานการวิจัยทั้ง 3 ประการ ที่ได้กล่าวถึงแล้วในตอนต้นน้อยมากจนแทบจะเรียกได้ว่าไม่สนับสนุนต่อสมมุติฐานดังกล่าวเลย โดยปรากฏว่าความสัมพันธ์ระหว่างความรู้สึกมีอำนาจควบคุมกรรมวิธีการผลิตใด ๆ กับภาวะเอเลียนเนชัน ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างความรู้สึกมีอำนาจควบคุมการให้รางวัลเป็นไปอย่างถูกต้องยุติธรรม (ตามหลัก merit system) กับภาวะเอเลียนเนชัน-อันหมายถึงสมมุติฐานที่ 1 และสมมุติฐาน 3- เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติระดับ .05 แต่ประการใด แต่เมื่อพิจารณาไปยังความสามารถมองเห็นและระบุได้ถึงผลงานจากน้ำพักน้ำแรงของตนเองแล้ว ก็พบว่า ลักษณะและปริมาณความสัมพันธ์ที่มีภาวะเอเลียนเนชันยังเป็นที่น่าสงสัย เนื่องจากค่าสัมประสิทธิ์ความสัมพันธ์ระดับอันดับมาตราของกูดแมนและกรูซกัล กับค่าไคสแควร์ ให้ผลที่ขัดแย้งกัน เหตุผลที่จะอธิบายได้ว่า ทำไมสมมุติฐานส่วนใหญ่ (ถ้ามิใช่ทั้งหมด) ไม่ได้รับการยืนยันสนับสนุนในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ อาจจะจำแนกออกได้เป็น 2 กรณีหลักด้วยกันกล่าวคือ ในส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากจำนวนข้อความในมาตราวัดภาวะเอเลียนเนชันมีน้อยเกินกว่าจะใช้วัดภาวะเอเลียนเนชันในมิติต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้ครอบคลุมอย่างมีประสิทธิภาพเพียงพอ และอีกส่วนหนึ่งอาจเป็นไปได้ว่า ตัวแปรหลักที่แสดงเหตุและผลในสมมุติฐานส่วนใหญ่ ได้ถูกลบล้างบทบาทเด่นชัดลงไปด้วย “ลักษณะวิถีชีวิตแบบไทย" ตัวแปรที่การศึกษาครั้งนี้ได้เปิดเผยให้ทราบว่า มีความสัมพันธ์กับภาวะเอเลียนเนชันอย่างหนักแน่นในระดับปานกลาง ก็จะได้แก่ตัวแปรลักษณะความสัมพันธ์ภายในโรงงานระดับของความวิตกกังวลต่อเรื่องต่าง ๆ นอกเหนือจากเรื่องภายในโรงงาน และความอ่อนไหวแห่งอารมณ์ความรู้สึกอันเป็นบุคลิกภาพของลูกจ้าง ยิ่งกว่านั้น ยังได้พบว่า บรรดาลูกจ้างผู้ประสบภาวะเอเลียนเนชันมีความแตกต่างจากลูกจ้างที่ไม่ประสบภาวะดังกล่าวในส่วนที่เกี่ยวกับปัจจัยอื่นอีก 3 ประการ อันได้แก่ระดับการศึกษา การทำงานเป็นกะและประเภทของค่าจ้าง

Share

COinS