Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
การวิเคราะห์วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิตสาขาวิชาการพยาบาลในประเทศไทย ตั้งแต่ปีการศึกษา 2517 ถึง 2527
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
An analysis of master theses in nursing in Thailand from academic year 1984
Year (A.D.)
1987
Document Type
Thesis
First Advisor
สมคิด รักษาสัตย์
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
ครุศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
DOI
10.58837/CHULA.THE.1987.135
Abstract
n520 จุดมุ่งหมายของการวิจัย คือ เพื่อวิเคราะห์วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิตสาขาวิชาการพยาบาลในด้านปัญหาการวิจัย วัตถุประสงค์ของการวิจัย การแสดงแนวความคิด และ/หรือทฤษฎี ระเบียบวิธีวิจัย การเก็บรวบรวมข้อมูล ประชากรและการสุ่มตัวอย่างประชากร และสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ วิทยานิพนธ์ทุกฉบับในระหว่างปีการศึกษา 2517 ถึง 2527 ของนักศึกษาระดับปริญญาโท สาขาการบริหารการพยาบาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สาขาการพยาบาล และ การพยาบาลสาธารณสุข มหาวิทยาลัยมหิดล รวมจำนวนทั้งสิ้น 264 เล่ม เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสำรวจและจำแนกวิทยานิพนธ์ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น และได้นำไปทดลองใช้ และหาความตรงตามเนื้อหา (Content Validity) ข้อมูลที่ได้นำมาวิเคราะห์โดยการหาค่าความถี่ และร้อยละ สรุปผลการวิจัย 1. สถานภาพของผู้ทำวิทยานิพนธ์ ส่วนใหญ่เป็นพยาบาลฝ่ายการศึกษา รองลงมาเป็นพยาบาลฝ่ายบริการ 2. ปัญหาการวิจัย ส่วนใหญ่เป็นปัญหาด้านการปฏิบัติการพยาบาล รองลงมาเป็นปัญหาด้านการบริหารการพยาบาล และการศึกาาพยาบาล ตามลำดับ 3. เนื้อหาของวิทยานิพนธ์ในด้านการศึกษาพยาบาล ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับ การบริหารการศึกษาพยาบาล รองลงมาเป็นเรื่องสิ่งแวดล้อมของการเรียนการสอน 4. เนื้อหาของวิทยานิพนธ์ในด้านการบริหารการพยาบาล ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับบุคลากร รองลงมาเป็นเรื่อง รูปแบบและ/หรือการจัดองค์การ 5. เนื้อหาของวิทยานิพนธ์ในด้านการปฏิบัติการพยาบาล ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับเทคนิค วิธีการพยาบาล รองลงมาเป็นเรื่อง การสอน การแนะนำ และเรื่องการปฏิบัติตน การปรับตัว และการดูแลตนเองของบุคคล 6. ประโยชน์ของการวิจัยด้านการปฏิบัติการพยายาล เมื่อพิจารณาตามขอบเขตงานด้านสุขภาพอนามัยของพยาบาล พบว่า ส่วนใหญ่เป็นประโยชน์ต่องานด้านการรักษาพยาบาล รองลงมาเป็นงานด้านการส่งเสริมสุขภาพ และเมื่อพิจารณาตามการพยาบาลเฉพาะสาขา พบว่า ส่วนใหญ่มีประโยชน์ต่อการพยาบาลอายุรกรรม รองลงมา เป็นการพยาบาลสูติ-นรีเวช 7. วัตถุประสงค์ของการวิจัย วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิตสาขาวิชาการพยาบาลทั้งหมด เป็นการวิจัยประยุกต์ ซึ่งส่วนใหญ่มีจุดมุ่งหมายเฉพาะเพื่อค้นหาความสัมพันธ์ระหว่างข้อเท็จจริง หรือมุ่งอธิบายความเป็นเหตุเป็นผลของปรากฏการณ์ (Explanatory Research) 8. วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิตสาขาวิชาการพยาบาล ส่วนใหญ่มีการแสดงแนวความคิดและ/หรือทฤษฎี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแนวความคิดและ/หรือทฤษฎีด้านสังคมศาสตร์และ/หรือ พฤติกรรมศาสตร์ รองลงมาเป็นวิทยาศาสตร์การแพทย์ 9. ระเบียบวิธีวิจัย ส่วนใหญ่เป็นการวิจัยเชิงบรรยาย และในจำนวนีส่วนใหญ่เป็นการวิจัยเชิงสำรวจและเปรียบเทียบ 10. เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล ส่วนใหญ่เป็นแบบสอบถาม วิธีการสร้างเครื่องมือ ส่วนใหญ่ผู้วิจัยสร้างเอง ส่วนวิธีการตรวจสอบคุณภาพ ส่วนใหญ่เป็นการหาความตรงและความเที่ยง 11. ประชากรและการสุ่มตัวอย่างประชากร ส่วนใหญ่ศึกษาประชากรและ/หรือตัวอย่างประชากรที่เป็นบุคคล และเป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาล ส่วนวิธีการสุ่มตัวอย่างประชากรนั้นใช้วิธีการสุ่มแบบเจาะจงมากที่สุด 12. สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ส่วนใหญ่เป็นสถิติในประเภทของการวิเคราะห์ ตัวแปรเดี่ยวและการวิเคราะห์ตัวแปรคู่
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
วิชาการ, รัชนีภรณ์, "การวิเคราะห์วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิตสาขาวิชาการพยาบาลในประเทศไทย ตั้งแต่ปีการศึกษา 2517 ถึง 2527" (1987). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 47685.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/47685