Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การวิเคราะห์ความสามารถของพยาบาลวิชาชีพในการวินิจฉัย การพยาบาล

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

An analysis of profession nurses' ability in making nursing diagnosis

Year (A.D.)

1987

Document Type

Thesis

First Advisor

พวงรัตน์ บุญญานุรักษ์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

DOI

10.58837/CHULA.THE.1987.133

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ความสามารถในการใช้ข้อมูลประกอบการวินิจฉัยการพยาบาลเปรียบเทียบความสามารถในการใช้ข้อมูลประกอบการวินิจฉัยการพยาบาลของพยาบาลวิชาชีพที่มีประสบการณ์การปฏิบัติงานต่างกันมีวุฒิการศึกษาต่างกันและของพยาบาลวิชาชีพที่เคยและไม่เคยรับการอบรมเรื่องการใช้กระบวนการพยาบาลวิเคราะห์แบบการคิดในการวินิจฉัยการพยาบาลและศึกษาความสามารถในการกำหนดข้อวินิจฉัยการพยาบาลของพยาบาลวิชาชีพตัวอย่างประชากรในการวิจัย คือ พยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานให้การพยาบาลแก่ผู้ป่วยโดยตรง แผนกอายุรกรรม โรงพยาบาลของรัฐ เขตกรุงเทพมหานครจำนวน 265 คน รวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบทดสอบความสามารถในการวินิจฉัยการพยาบาล ซึ่งได้ผ่านการปรับปรุงให้มีความตรงตามเนื้อเรื่องโดยผู้ทรงคุณวุฒิทางการพยาบาลอายุรกรม หาความเที่ยงของแบบทดสอบโดยใช้สูตรที่ 12 ของแอนกอฟฟ์ และได้หาความเที่ยงของการตรวจให้คะแนนโดยใช้สูตรการหาสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน และวิเคราะห์ข้อมูลโดยคำนวณค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (t-test) การทดสอบค่าเอฟ (F-test) และเปรียบเทียบรายคู่โดยวิธีของ ตูกี (บี) Tukey (b) Method ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1.พยาบาลวิชาชีพส่วนใหญ่มีความสามารถในการใช้ข้อมูลประกอบการวินิจฉัยการพยาบาลระดับปานกลาง และเป็นส่วนน้อยมีความสามารถระดับสูง 2.พยาบาลวิชาชีพที่มีประสบการณ์การปฏิบัติงานต่างกันมีความสามารถในการใช้ข้อมูลประกอบการวินิจฉัยการพยาบาลแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยพยาบาลวิชาชีพที่มีประสบการณ์มากกว่า 3-6 ปี มีความสามารถในการใช้ข้อมูลประกอบการวินิจฉัยการพยาบาลสูงสูดและพยาบาลวิชาชีพที่มีประสบการณ์มากกว่า 1-3 ปี และที่มีประสบการณ์มากกว่า 3-6 ปี มีความสามารถในการใช้ข้อมูลประกอบการวินิจฉัยการพยาบาลสูงกว่าพยาบาลวิชาชีพที่มีประสบการณ์ 1 ปี และต่ำกว่าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3. พยาบาลวิชาชีพที่มีวุฒิต่ำกว่าปริญญาตรี และปริญญาตรีมีความสามารถในการใช้ข้อมูลประกอบการวินิจฉัยการพยาบาลไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 4. พยาบาลวิชาชีพที่เคยและไม่เคยรับการอบรมเรื่องการใช้กระบวนการพยาบาลมีความสามารถในการใช้ข้อมูลประกอบการวินิจฉัยการพยาบาลไม่แตกต่างกัน 5. พยาบาลวิชาชีพส่วนใหญ่ใช้การคิดแบบไม่มีหลักการในการวินิจฉัยการพยาบาลและส่วนน้อยใช้การคิดพิจารณาอย่างรอบคอบ 6. โดยเฉลี่ยพยาบาลวิชาชีพระบุประเด็นปฏิกิริยาตอบสนองต่อปัญหาสุขภาพได้ 2.35 ใน 9 ข้อ 7. โดยเฉลี่ยพยาบาลวิชาชีพเขียนข้อวินิจฉัยการพยาบาลที่สมบูรณ์ได้ 0.67 ใน 9 ข้อ

Share

COinS