Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาระดับของซีลีเนียมในแกะที่เลี้ยงด้วยผักตบชวาสดและหญ้าแห้ง

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

The studies on selenium levels in sheep fed water-hyacinth and hey

Year (A.D.)

1986

Document Type

Thesis

First Advisor

อายุส พิชัยชาญณรงค์

Second Advisor

ณรงค์ศักดิ์ ชัยบุตร

Third Advisor

พรศรี ชัยรัตนายุทธ์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

สรีรวิทยา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1986.599

Abstract

ทำการศึกษาคุณค่าทางอาหารและประสิทธิภาพการย่อยได้ของอาหารชนิดต่างๆในแกะเพศผู้จำนวน 5 ตัว โดยให้กินผักตบชวาสด หญ้าแห้ง และผักตบชวาผสมหญ้าแห้ง และเปรียบเทียบกับระยะควบคุมที่ให้กินหญ้าสดและอาหารข้น เลี้ยงแกะไว้ในกรงที่สามารถเก็บปัสสาวะและมูลได้ตลอด 24 ชั่วโมง ศึกษาปริมาณการกินอาหารและน้ำ เพื่อเปรียบเทียบสัมประสิทธิ์การย่อยได้ของวัตถุแห้ง โปรตีนหยาบ และซีลีเนียมในแกะที่เลี้ยงด้วยอาหารชนิดต่างๆตลอดจนสมดุลของไนโตรเจน ซีลีเนียมและสมดุลของน้ำในร่างกาย จากการวิเคราะห์ปริมาณโปรตีนหยาบในอาหาร พบว่าผักตบชวามีปริมาณโปรตีนหยาบสูงใกล้เคียงกับหญ้าสด โดยผักตบชวามี 15.83 ± 0.09 หญ้าสดมี 12.27 ± 0.06 % ของวัตถุแห้ง ส่วนหญ้าแห้งมีปริมาณโปรตีนหยาบต่ำที่สุดเพียง 3.49 ± 0.09 % ของวัตถุแห้งเท่านั้น การวิเคราะห์ปริมาณซีลีเนียมในอาหาร พบว่าระดับซีลีเนียมในผักตบชวา หญ้าสดและอาหารข้นมีปริมาณต่ำคือ 0.0086 ± 0.0004, 0.0181 ± 0.0003 และ 0.0257 ± 0.0026 พีพีเอ็ม ตามลำดับ ส่วนหญ้าแห้งมีปริมาณสูงคือ 0.1200 ± 0.0005 พีพีเอ็ม แกะที่กินผักตบชวาสดสามารถเพิ่มปริมาณการกิน (วัตถุแห้ง) ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( P < 0.01 ) โดยการให้ผักตบชวาร่วมกับหญ้าแห้งในอัตราส่วน 1: 1 ซึ่งแกะสามารถกินได้ในอัตราส่วน 2: 1 และพบว่าสัมประสิทธิ์การย่อยได้ของวัตถุแห้ง โปรตีนหยาบและซีลีเนียมของแกะที่กินหญ้าแห้ง ผักตบชวา และผักตบชวาผสมหญ้าแห้งนั้นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญสำคัญทางสถิติ ( P < 0.05 ) หญ้าแห้งมีสัมประสิทธิ์การย่อยได้ของวัตถุแห้ง โปรตีนและซีลีเนียมต่ำที่สุด ( 36.84 ± 3.10, - 47.45 ± 8.70 และ - 18.85 ± 34.08 % ตามลำดับ ) ส่วนผักตบชวามีสัมประสิทธิ์การย่อยได้ของวัตถุแห้งและโปรตีน ( 74.81 ± 1.00 และ 36.07 ± 3.88 % ) สูงกว่าหญ้าแห้งและผักตบชวาผสมหญ้าแห้ง ( 46.88 ± 7.08 และ – 1.07 ± 5.81 % ) แต่มีสัมประสิทธิ์การย่อยได้ของซีลีเนียมต่ำที่สุด ( - 244.73 ± 25.81 % ) สมดุลของไนโตรเจนของแกะที่กินผักตบชวามีค่าเป็นบวก ส่วนแกะที่กินหญ้าแห้งและผักตบชวาผสมหญ้าแห้งมีค่าเป็นลบ และทุกกลุ่มแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ สมดุลของซีลีเนียมทุกกลุ่มทดลองมีค่าเป็นลบไม่แตกต่างกัน และไม่แตกต่างจากระยะควบคุมด้วย ระดับซีลีเนียมในซีรัมของแกะอยู่ในช่วง 0.032 – 0.035 พีพีเอ็ม และเปลี่ยนแปลงไปตามระดับซีลีเนียมในอาหารที่แกะกิน พบว่าแกะที่กินผักตบชวาสดอย่างเดียวมีระดับขซีลีเนียมในซีรัมลดลง ( 0.032 ± 0.001 พีพีเอ็ม ) ส่วนแกะที่กินหญ้าแห้งและผักตบชวาผสมหญ้าแห้งนั้นระดับซีลีเนียมในซีรีมเพิ่มขึ้น ( 0.043 ± 0.005 และ 0.041 ± 0.003 พีพีเอ็ม ) ตามลำดับแต่การเปลี่ยนแปลงของทุกกลุ่มไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ สมดุลของน้ำในร่างกายของแกะที่กินผักตบชวา หญ้าแห้ง หรือทั้ง 2 อย่างไม่แตกต่างกันและไม่แตกต่างกันระยะควบคุมเช่นเดียวกับค่าฮีมาโตคริต สรุปว่าผักตบชวาสามารถใช้เป็นอาหารเลี้ยงสัตว์ เคี้ยวเอื้องแทนหญ้าได้ แต่ควรให้ร่วมกับหญ้าหรือพืชอาหารหยาบชนิดอื่น เพื่อให้สัตว์มีการเจริญเติบโตดียิ่งขึ้น เพราะแกะจะสามารถกินอาหารหยาบเมื่อคิดเป็นร้อยละของน้ำหนักตัวได้มากขึ้น และเพื่อเป็นการป้องกันภาวการณ์ขาดแร่ธาตุซีลีเนียมในสัตว์ที่อาจเกิดขึ้นได้

Share

COinS