Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การวิเคราะห์งานวิจัยด้านครุศึกษาในประเทศไทย

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

An analysis of teacher education research in Thailand

Year (A.D.)

1986

Document Type

Thesis

First Advisor

สมหวัง พิธิยานุวัฒน์

Second Advisor

สุวัฒนา สุวรรณเขตนิคม

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

วิจัยการศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1986.321

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มุ่งรวบรวมและวิเคราะห์งานวิจัยด้านครูศึกษาในประเทศไทย เพื่อจำแนกประเภทงานวิจัยในเชิงระบบของการครูศึกษาตามแนวโมเดล CIPP และเสนอข้อสรุปของการบูรณาการผลวิจัยในเชิงปริมาณและเชิงบรรยาย อันจะก่อประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบข้อมูลทางด้านครูศึกษา และการนำผลวิจัยไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ประชากรของการวิจัย คืองานวิจัยด้านครูศึกษาที่มีคุณภาพที่พิมพ์เผยแพร่ระหว่างปีพุทธศักราช 2502 ถึง 2526 เครื่องมือในการวิจัยคือ แบบประเมินคุณภาพงานวิจัย แบบวิเคราะห์ประเภทงานวิจัยด้านครูศึกษาและแบบสรุปลักษณะงานวิจัย ในการวิเคราะห์ผลการวิจัยใช้วิธีเคราะห์เนื้อเรื่อง และวิธีวิเคราะห์แบบเมตต้า ข้อค้นพบที่สำคัญของการวิจัยคือ 1.งานวิจัยด้านครูศึกษาในประเทศไทยที่พิมพ์เผยแพร่ระหว่างปีพ.ศ. 2502 -2526 มีจำนวน 793 เรื่อง เมื่อจำแนกประเภทงานวิจัยในเชิงระบบของการครูศึกษาตามแนวโมเดล CIPP พบว่ามีปริมาณงานวิจัยด้านต่างๆ ดังนี้ (1) ด้านสภาวะแวดล้อมของการครูศึกษา มีจำนวนงานวิจัย 35 เรื่อง (2) ด้านปัจจัยเบื้องต้นในการครูศึกษา มีจำนวนงานวิจัย 83 เรื่อง (3) ด้านกระบวนการของการครูศึกษา มีจำนวนงานวิจัย 643 เรื่อง และ (4) ด้านผลผลิตของการครูศึกษา มีจำนวนงานวิจัย 53 เรื่อง 2 ผลการบูรณาการผลวิจัย 2.1 ด้านการคาดคะเนความต้องการครูของประเทศไทยมีจำนวนงานวิจัยทั้งสิ้น 7 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและเป็นการคาดคะเนความต้องการครูในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา มีทั้งในระดับมหภาคและจุลภาคโดยคาดคะเนในช่วง พ.ศ. 2521 -2529 ผลการคาดคะเนความต้องการครูของงานวิจัยส่วนใหญ่ไม่สอดคล้องกัน บางส่วนมีความต้องการครูในอัตราที่เพิ่มขึ้น บางส่วนมีอัตราความต้องการครูลดลง 2.2 ด้านการเปรียบเทียบผลการสอนวิชาคณิตศาสตร์ให้แก่นักศึกษาครูระดับ ป.กศ. ชั้นสูงด้วยวิธีสอนแบบค้นพบและวิธีสอนแบบบรรยาย มีจำนวนงานวิจัย 15 เรื่อง ผลการวิเคราะห์แบบเมตต้า พบว่า โดยทั่วไปแล้วยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะกล่าวได้ว่า วิธีการสอนแบบค้นพบให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์สูงกว่าวิธีการสอนแบบบรรยาย แต่พบว่าความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะงานวิจัยบางลักษณะกับผลมาตรฐานอันได้แก่ ลักษณะจำนวนคาบที่ใช้ทดลองแบบ 4-7 คาบ กับแบบ 9-12 คาบ และลักษณะการใช้กลุ่มทดลองแบบกลุ่มเดียวกับแบบสองกลุ่มและพบว่า เพื่อพิจารณาเฉพาะกลุ่มนักศึกษาครูที่มีผลสัมฤทธิ์สูงหรือต่ำ วิธีสอนแบบค้นพบให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์สูงกว่าวิธีสอนแบบบรรยาย 2.3 ด้านปัญหาการฝึกสอน มีจำนวนงานวิจัย 22 เรื่อง ส่วนใหญ่ผลิตจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศึกษาปัญหาการฝึกสอนตั้งแต่ พ.ศ. 2505 เรื่อยมาจนกระทั่งปัจจุบัน ปัญหาการฝึกสอนที่เป็นปัญหามากอย่างสอดคล้องกันในงานวิจัยจำนวนมากคือ (1) การขาดทักษะในการเลือกและใช้วิธีสอนที่เหมาะสม (2) ความลำบากในการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์การสอนที่เหมาะสม (3) ความลำบากในการวางแผนการสอนระยะสั้นและระยะยาว (4) ความลำบากในการควบคุมชั้นเรียนให้มีระเบียบวินัย และ (5) อาจารย์นิเทศก์ทั้งฝ่ายคณะและฝ่ายโรงเรียนไม่มีเวลาเพียงพอให้คำแนะนำแก่นักศึกษาฝึกสอน 2.4 ด้านการติดตามผลการปฏิบัติงานของผู้สำเร็จจากการครูศึกษามีจำนวนงานวิจัย 29 เรื่อง ส่วนใหญ่ผลิตโดยมหาวิทยาลัยศรีนครีนทรวิโรฒ มีการติดตามผลการปฏิบัติงานมาตั้งแต่ พ.ศ. 2497 เรื่อยมาจนกระทั่งปัจจุบัน ผลการวิจัยส่วนใหญ่สอดคล้องกัน คือ ผู้สำเร็จจากการครูศึกษาส่วนใหญ่มีผลการปฏิบัติงานโดยรวมอยู่ในระดับดี

Share

COinS