Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
สถานภาพทางสังคมของผู้หญิงไทย (ในช่วงปี พ.ศ. 2475-2493) ในนวนิยายของ ดอกไม้สด และ ก. สุรางคนางค์
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
The social status of Thai women in the novels of Dok Maisod and K. Surang Kanang (Between B.E. 2475-2493)
Year (A.D.)
1986
Document Type
Thesis
First Advisor
สุภางค์ จันทวานิช
Second Advisor
ระวาท วณิคพันธุ์
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
อักษรศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
วรรณคดีเปรียบเทียบ
DOI
10.58837/CHULA.THE.1986.772
Abstract
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยที่เป็นทั้งแบบพรรณนาวิเคราะห์ ( Analystical Descriptive ) และการค้นคว้าจากเอกสาร ( Documentary Research ) โดยมุ่งศึกษาสถานภาพทางสังคมของผู้หญิงไทยจากนวนิยาย ผู้วิจัยต้องการจะศึกษาสถานภาพทางสังคมของสตรีในช่วงเวลาหนึ่ง คือ หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 จนถึงหมดสมัยนิยม พ.ศ. 2493 โดยใช้วรรณกรรมรูปแบบนวนิยายเป็นแหล่งข้อมูลการวิจัยจำกัดขอบเขตการศึกษา เฉพาะงานนวนิยายของนักเขียนสตรี 2 ท่าน คือ ดอกไม้สด ( 2488 – 2506 ) และ ก. สุรางคนางค์ (2454- ) ทั้งนี้เนื่องจากการศึกษานวนิยายของดอกไม้สดและ ก. สุรางคนางค์ พบว่า ในนวนิยายของนักเขียนทั้งสองท่านมีสาระเรื่องผู้หญิงเพียงพอและมากกว่าที่พบในนวนิยายของนักเขียนท่านอื่น ๆ ในยุคเดียวกัน นอกจากนั้น สาระเกี่ยวกับผู้หญิงที่นักเขียนทั้งสองมะท้อนออกมา ยังแสดงให้เห็นภาพของผู้หญิงจากชนชั้นสูงและชนชั้นกลาง ซึ่งมีสถานะที่แตกต่างกัน ข้อค้นพบในส่วนที่เกี่ยวกับสถานภาพทางสังคมของผู้หญิงในชนชั้นสูง และ ชนชั้นกลางในงานนวนิยาย มีดังนี้ ในสภาบันครอบครัว ดอกไม้สด ได้สะท้อนภาพมารดาในชนชั้นสูงที่มีหน้าที่อบรมเลี้ยงดูบุตรธิดาจนได้แต่งงานออกเรือนไป และก็ยังให้ภาพของมารดาสมัยใหม่ที่ยังคงมีหน้าที่อบรมเลี้ยงดูลูกแต่ก็ปฏิบัติตนดังเพื่อนที่ให้ความรักความเข้าใจ รับฟังลูกได้ทุกเรื่องแม้แต่เรื่องเพื่อนชาย ซึ่งมารดาลักษณะนี้จะเป็นผู้หญิงที่ได้รับการศึกษาใหม่ ส่วน ก. สุรางคนางค์ก็ชี้ให้เห็นว่ามารดาในชนชั้นกลาง ก็มีหน้าที่อบรมเลี้ยงดูลูก และให้ความสำคัญต่อการศึกษาของลูกมาก อีกทั้งโดยทั่วไป มารดาในชนชั้นกลางเป็นมารดาสมัยใหม่ที่ให้อิสระต่อการมีคู่ครองของลูก โดยคอยให้คำปรึกษาแก่ลูก อย่างไรก็ตาม ก. สุรางคนางค์ ก็ได้เสนอภาพมารดาในชนชั้นกลางที่อาจจะคำนึงถึงฐานะทางเศรษฐกิจเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการแต่งงานของลูกสาว ในฐานะภรรยา จากการที่วัฒนธรรมตะวันตก การมีผัวเดียวเมียเดียวกำลังเป็นที่ยอมรับอย่างแร่หลาย ดอกไม้สดก็ได้เสนอภาพของภรรยาในชนชั้นสูงที่ไม่มีความสุขกับการที่สามีมีภรรยาหลายคนในบ้านเดียวกัน พร้อมทั้งให้ภาพภรรยาที่แหวกกฎเกณฑ์ประเพณีเดิมที่ภรรยาเคยเป็นช้างเท้าหลัง โดยจะไม่ยอมอยู่ภายใต้อำนาจของสามีอีกต่อไป นอกจากนี้ ดอกไม้สดยังให้คุณลักษณะของภรรยาในสังคมใหม่เพิ่มเติมที่ต้องรู้จักการเล่นกีฬา การเต้นรำ การสมาคมเคียงบ่าเคียงไหล่สามีอีกด้วย ส่วน ก. สุรางคนางค์ ก็เสนอแบบฉบับของภรรยาที่ดีในชนชั้นกลางที่ทำหน้าที่ดูแลกิจการงานบ้านได้อย่างเรียบร้อย ทั้งยังปฏิบัติตนเป็นเพื่อนคู่คิดของสามี เป็นคู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขของสามี มีความซื่อสัตย์ต่อสามีและหากภรรยาประพฤตินอกใจสามี ก็จะได้รับการประนามหยามเหยียดจากสังคม แต่อย่างไรก็ตาม ก. สุรางคนางค์ ก็ได้เสนอแง่คิดเกี่ยวกับการมีชู้ของภรรยาในแง่ที่ว่า ปัญหาระหว่างสามีภรรยานั้นจะตัดสินว่าผิดศีลธรรมอย่างไร ควรจะศึกษาหรือรู้มูลเหตุของปัญหาเสียก่อน ส่วนในฐานะบุตรสาว ในงานนวนิยายของดอกไม้สด และ ก. สุรางคนางค์ บุตรสาวยังคงเป็นบุตรสาวที่ต้องเคารพเชื่อฟัง กตัญญูต่อบิดามารดา และญาติผู้ใหญ่ คอยช่วยเหลือดูแลบิดามารดายามเจ็บป่วย และเข้าสู่วัยชรา ในยุคนี้สถานภาพของบุตรสาวพัฒนาขึ้นกว่าอดีตมาก คือมีโอกาสได้รับการศึกษามากขึ้น ก็มีความเป็นของตนเองในการดำเนินชีวิต บางครั้งถึงกับแหวกประเพณีเดิม เช่น การคัดค้านการแต่งงานแบบคลุมถุงชนหรือการจดทะเบียนกับคนรักโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากผู้ใหญ่เป็นต้น สำหรับ สถานภาพทางการศึกษาของผู้หญิงไทยก็นับว่าดีขึ้นเป็นลำดับตามลักษณะการพัฒนาของระบบการศึกษา จากงานนวนิยามของ ดอกไม้สด และ ก. สุรางคนางค์พบว่า ผู้หญิงโดยทั่วไปมีโอกาสศึกษามากขึ้น ซึ่งตัวละครเอกฝ่ายหญิงล้วนจบการศึกษาสูงกว่าภาคบังคับ มีโอกาสเรียนภาษาต่างประเทศ ตลอดจนวิชาการบ้านการเรือน แต่อย่างไรก็ตามนักเขียนทั้งสองท่านต่างก็เสนอว่าสถานภาพทางการศึกษาของผู้หญิงชนชั้นสูงพัฒนาดีขึ้นกว่าผู้หญิงชนชั้นกลางคือมีโอกาสได้รับการศึกษาจากต่างประเทศ เมื่อพิจารณาถึงสถานภาพทางเศรษฐกิจของผู้หญิงในงานนวนิยายนั้น ลักษณะการที่ผู้หญิงที่ได้รับการศึกษาเริ่มประกอบอาชีพต่าง ๆ นอกบ้านจะพบได้ในผู้หญิงชนชั้นกลางมากกว่าผู้หญิงชนชั้นสูง เนื่องมาจากค่านิยมเดิมของชนชั้นสูงไม่นิยมให้ผู้หญิงออกมาทำงานนอกบ้าน ประกอบกับฐานะทางเศรษฐกิจเอื้ออำนวย หรือหากจะมีหญิงสาวในชนชั้นสูงที่มีการศึกษาจะประกอบอาชีพ ก็จะมีอาชีพเดียวเท่านั้นคือ อาชีพครู ส่วนผู้หญิงในชนชั้นกลางนั้นจะประกอบอาชีพต่าง ๆ คือ ครู เลขานุการ นักเขียน หรืออาจจะทำงานพิเศษช่วยสามีทำงาน เช่นออกเงินให้กู้ หรือเป็นนายหน้า เป็นต้น ส่วนสถานภาพทางการเมืองและกฎหมายของผู้หญิงนั้นจากการศึกษางานนวนิยายของนักเขียนทั้งสองท่านนดังกล่าว มิได้ให้ภาพสะท้อนที่เด่นชัดนักในเรื่องนี้ ซึ่งก็อาจจะเนื่องจากเป็นระยะแรกของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง จึงยังไม่มีการตื่นตัวในเรื่องการเมือง และกฎหมายเพื่อสิทธิของผู้หญิงมากนัก แต่อย่างไรก็ตาม นักเขียนก็ยังให้ภาพการแหวกกฎเกณฑ์เก่า ๆ ที่จำกัดหญิงมากไป อาทิ เช่น การขอหย่าจากสามีเนื่องจากสามีมีเมียน้อยเป็นต้น ผู้หญิงในชนชั้นสูงสมัยใหม่ที่มีบทบาทต่อกิจกรรมในสมาคมนอกบ้านหลายประการ อาทิ การเล่นกีฬา การเต้นรำ หรือการมีอิสระ ในการคบเพื่อนต่างเพศ ส่วน ก. สุรางคนางค์เสนอภาพผู้หญิงในชนชั้นกลางที่มีความเชื่อมั่นในตัวเอง ความภาคภูมิใจในตัวเองโดยผู้หญิงควรจะทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมบ้าง เริ่มมีความคิดพึ่งตนเองโดยการมีอาชีพ คิดสร้างฐานะให้ตนเองโดยไม่คิดพึ่งการแต่งงาน จากการศึกษาชีวะประวัติและงานนวนิยายของนักเขียนทั้งสองท่านจะพบว่าทั้งดอกไม้สด และ ก. สุรางคนางค์ ต่างก็เป็นนักเขียนที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมสูง โดยถ่ายทอดประสบการณ์ต่าง ๆ ความคิดและวิถีชีวิตในงานนวนิยาย นอกจากนี้นักเขียนทั้งสองก็ยังเป็นนักเขียนสตรีรุ่นแรกที่ให้ความสำคัญต่อตัวละครฝ่ายหญิงมาก ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่า นักเขียนทั้งสองท่านมีความตั้งใจที่ต้องการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพของผู้หญิงในสังคมโดยผ่านงานนวนิยาย ซึ่งในยุคนั้นยังไม่มีองค์กรหรือสถาบันของผู้หญิงใดๆ ที่จะเป็นตัวแทนการกระทำดังกล่าว และจากการศึกษางานนวนิยายของดอกไม้สด และ ก. สุรางคนางค์ ก็ทำให้สามารถรู้ถึงสถานภาพทางสังคมของผู้หญิง ตลอดจนความคาดหวังต่อสถานภาพของผู้หญิงในยุคนั้นได้อย่างดี
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
เฉยตรองการ, สายสมร, "สถานภาพทางสังคมของผู้หญิงไทย (ในช่วงปี พ.ศ. 2475-2493) ในนวนิยายของ ดอกไม้สด และ ก. สุรางคนางค์" (1986). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 47464.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/47464