Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ความคิดเห็นของนักเรียนเตรียมทหารเกี่ยวกับการเรียนการสอนวิชาประวัติการปกครองและการเมืองของไทย

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Opinions of cadets concerning the instruction of history of Thai politics and government course

Year (A.D.)

1986

Document Type

Thesis

First Advisor

ลาวัณย์ วิทยาวุฑณิกุล

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

มัธยมศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1986.270

Abstract

วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1. เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนเตรียมทหารเกี่ยวกับการเรียนการสอนวิชาประวัติการปกครองและการเมืองของไทย ในด้านต่าง ๆ คือ หลักสูตรและเนื้อหา กิจกรรม การเรียนการสอน กระบวนการวัดและประเมิน และการนำความรู้ไปใช้ 2. เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นเกี่ยวกับการเรียนการสอนวิชาประวัติการปกครองและการเมืองของไทย ของนักเรียนเตรียมทหารทั้ง 4 เหล่าทัพ คือ นักเรียนนายร้อย นักเรียนนายเรือ นักเรียนนายเรืออากาศ และนักเรียนนายร้อยตำรวจ วิธีดำเนินการวิจัย ผู้วิจัยได้สร้างแบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับการเรียนการสอนวิชาประวัติการปกครองและการเมืองของไทย 1 ชุด ประกอบด้วยคำถามแบบตรวจคำตอบ แบบมาตราส่วนประเมินค่า และแบบปลายเปิด แล้วนำไปตามนักเรียนเตรียมทหารจำนวน 480 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้น (Stratified Random Sampling) วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูปสำหรับการวิจัยทางสังคมศาสตร์ SPSSX (Statistical Package for The Social Sciences X) ของสถาบันบริการคอมพิวเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อหาค่าร้อยละ ค่ามัชฌิมเลขคณิต ( X) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One Way Analysis of Variance) และทดสอบอัตราส่วนเอฟ (F-test) ตามวิธีของเชฟเฟ (Scheffe’s Method) แล้วนำเสนอในรูปตารางประกอบความเรียง สรุปผลการวิจัย 1. การศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนเตรียมทหารเกี่ยวกับการเรียนการสอนวิชาประวัติการปกครองและการเมืองของไทย ทั้ง 4 ด้าน ปรากฏผลดังนี้คือ 1.1 หลักสูตรและเนื้อหา โดยส่วนรวมนักเรียนเตรียมทหารทุกเหล่าทัพเห็นด้วยกับการเรียนการสอนวิชาประวัติการปกครองและการเมืองของไทย ด้านหลักสูตรและเนื้อหา และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อแล้ว ปรากฏว่านักเรียนเตรียมทหารทุกเหล่าทัพเห็นด้วยเกือบทุกข้อ คือเห็นว่าวัตถุประสงค์ของหลักสูตรมีความสอดคล้องและส่งเสริมระบอบประชาธิปไตยและพัฒนาการทางการเมืองการปกครองของไทย เนื้อหาวิชาที่กำหนดไว้ให้ในหลักสูตรมีความเหมาะสมกับระดับสติปัญญาและวัยของผู้เรียน เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับสภาพสังคมปัจจุบัน เหมาะสมที่จะใช้เป็นพื้นฐานในการศึกษาต่อ เป็นประโยชน์อาจนำไปใช้ในการดำรงชีวิตประจำวันได้ น่าสนใจ ก่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจความเป็นมาทางการเมืองการปกครองของไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน และมีทัศนะที่เป็นกลางไม่ลำเอียง 1.2 กิจกรรมการเรียนการสอน โดยส่วนรวมนักเรียนเตรียมทหารทุกเหล่าทัพเห็นด้วยกับการเรียนการสอนวิชาประวัติการปกครองและการเมืองของไทย ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อแล้วปรากฏว่า นักเรียนเตรียมทหารทุกเหล่าทัพเห็นด้วยเกือบทุกข้อ คือเห็นด้วยว่า นักเรียนได้ทราบวัตถุประสงค์ของการเรียนและโครงการเรียนการสอนวิชานี้ตั้งแต่เริ่มต้นเรียน ทราบวัตถุประสงค์ของการเรียนทุกบทเรียน และได้รับรายชื่อแหล่งค้นคว้าประกอบจากผู้สอน การเรียนการสอนดำเนินไปตามแผนหรือโครงการที่วางไว้อย่างสม่ำเสมอ มีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนด้วยวิธีการสอนแบบจำลองสถานการณ์ วิธีการทางประวัติศาสตร์ วิธีการสอนแบบแก้ปัญหา การอภิปรายกลุ่มใหญ่ การอภิปรายกลุ่มย่อย การสัมมนา การอภิปรายแบบโต้วาที การอภิปรายแบบระดมพลังสมอง วิธีการสอนแบบสืบสอบ และวิธีการสอนแบบบรรยายแบบต่างๆ 1.3 กระบวนการวัดและประเมินผล โดยส่วนรวมนักเรียนเตรียมทหารทุกเหล่าทัพเห็นด้วยกับการเรียนการสอนวิชาประวัติการปกครองและการเมืองของไทย ด้านกระบวนการวัดและประเมินผล และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อปรากฏว่า นักเรียนเตรียมทหารทุกเหล่าทัพเห็นด้วยเกือบทุกข้อ คือเห็นด้วยว่าครูผู้สอนวัดผลโดยอาศัยวัตถุประสงค์ของการเรียนเป็นหลัก แจ้งให้นักเรียนทราบวัตถุประสงค์และวิธีการในการดำเนินการวัดและประเมินผลล่วงหน้าทุกครั้ง กระบวนการวัดและประเมินผลสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ เนื้อหา และกิจกรรมการเรียนการสอน ครูผู้สอนให้นักเรียนทำข้อสอบย่อย ถามคำถาม แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทเรียน และมอบให้นักเรียนค้นคว้าเพิ่มเติมเป็นรายบุคคลหรือกลุ่มแล้วอภิปรายหน้าชั้น 1.4 การนำความรู้ไปใช้ โดยส่วนรวมนักเรียนเตรียมทหารทุกเหล่าทัพเห็นด้วยกับการเรียนการสอนวิชาประวัติการปกครองและการเมืองของไทย ด้านการนำความรู้ไปใช้ และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อแล้วปรากฏว่า นักเรียนเตรียมทหารทุกเหล่าทัพเห็นด้วยทุกข้อ คือเห็นด้วยว่า เรียนวิชานี้แล้วทำให้มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับความเป็นมาของระบบการเมืองการปกครอง และระเบียบการบริหารราชการแผ่นดินของไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทราบข้อผิดพลาดของการดำเนินนโยบายทางการเมืองของไทยในอดีตได้ เกิดความคิดความเห็นในการเสนอแนะแนวทางในการแก้ปัญหา เป็นคนทันสมัยทันต่อเหตุการณ์ปัจจุบัน เกิดความรักชาติมากขึ้น เป็นคนที่รู้จักหลักการใช้เหตุผลในการพิจารณาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ มีความเลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตย นำความรู้วิชานี้ไปประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพหรือรับราชการในอนาคตได้ นำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ และช่วยเป็นแนวทางในการมีส่วนปรับปรุงการปกครองบ้านเมืองในอนาคตได้ 2. การเปรียบเทียบความคิดเห็นเกี่ยวกับการเรียนการสอนวิชาประวัติการปกครองและการเมืองของไทยระหว่างนักเรียนเตรียมทหารทั้ง 4 เหล่าทัพ ปรากฏผลในแต่ละด้านดังนี้ 2.1 หลักสูตรและเนื้อหา โดยส่วนรวมนักเรียนเตรียมทหารทั้ง 4 เหล่าทัพ มีความคิดเห็นเกี่ยวกับการเรียนการสอนวิชาประวัติการปกครองและการเมืองของไทย ด้านหลักสูตรและเนื้อหาไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 2.2 กิจกรรมการเรียนการสอน โดยส่วนรวมนักเรียนเตรียมทหารทั้ง 4 เหล่าทัพ มีความคิดเห็นเกี่ยวกับการเรียนการสอนวิชาประวัติการปกครองและการเมืองของไทย ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 2.3 กระบวนการวัดและประเมินผล โดยส่วนรวมนักเรียนเตรียมทหารทั้ง 4 เหล่าทัพ มีความคิดเห็นเกี่ยวกับการเรียนการสอนวิชาประวัติการปกครองและการเมืองของไทย ด้านการวัดและประเมินผล ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 2.4 การนำความรู้ไปใช้ โดยส่วนรวมนักเรียนเตรียมทหารทั้ง 4 เหล่าทัพ มีความคิดเห็นเกี่ยวกับการเรียนการสอนวิชาประวัติการปกครองและการเมืองของไทย ด้านการนำความรู้ไปใช้ ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

Share

COinS