Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
การศึกษาการจัดการของบริษัทการทำความสะอาดอาคาร
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
A study on management of cleaning service company
Year (A.D.)
1986
Document Type
Thesis
First Advisor
สุภาณี จันทร
Second Advisor
พรหมพิไล คุณาพันธ์
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
พาณิชยศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
พาณิชยศาสตร์
DOI
10.58837/CHULA.THE.1986.494
Abstract
การบริการทำความสะอาดอาคารเป็นธุรกิจขายบริการทำความสะอาดโดยผู้เชี่ยวชาญในกรรมวิธีและการใช้เครื่องมืออุปกรณ์ทำความสะอาด ลูกค้าจะได้รับการบำรุงรักษาทำความสะอาดสถานที่อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องลงทุนในเครื่องมืออุปกรณ์ทำความสะอาดซึ่งมีราคาแพง ไม่ต้องมีภาระกับการบริหารงานบุคคลด้านนี้และสามารถกำหนดค่าใช้จ่ายที่แน่นอนได้ จากการศึกษาบริษัทบริการทำความสะอาดอาคารในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 28 บริษัทจากจำนวนทั้งสิ้น 42 บริษัท ทราบว่าบริษัทเหล่านี้จำนวน ร้อยละ 50 ก่อตั้งขึ้นระหว่าง 6 – 10 ปี ที่ผ่านมา โดยให้บริการทำความสะอาด และจำหน่ายเครื่องมืออุปกรณ์ สารเคมีน้ำยาเคมีสำหรับทำความสะอาด การบริการมีทั้งทำความสะอาดเป็นประจำทุกวันโดยมีสัญญาระยะยาว กับทำความสะอาดเป็นครั้งเป็นคราวตามแต่จะตกลงกัน พนักงานทำความสะอาดส่วนมากมีอายุระหว่าง 21 – 30 ปี มีวุฒิการศึกษาชั้นประถมปีที่ 6 หรือต่ำกว่า ได้รับค่าจ้างแรงงานเป็นเงินเดือนและรายวัน กิจการขนาดเล็กมีจำนวนพนักงานทำความสะอาดน้อยกว่า 100 คน มีจำนวนมากถึงร้อยละ 71.43 ซึ่งมีการบริหารงานแบบเจ้าของคนเดียว ควบคุมดูแลสั่งการ ดำเนินงานเกือบทุกอย่างด้วยตนเอง ส่วนกิจการขนาดใหญ่ซึ่งมีพนักงานทำความสะอาดมากกว่า 100 – 1,000 คนนั้นจะมีการจัดองค์การ แบ่งสายงานเป็นหน่วยย่อย มีการมอบหมายอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นลำดับ วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มุ่งที่จะศึกษาลักษณะการจัดการโดยทั่วๆ ไปของธุรกิจบริการทำความสะอาดอาคาร โดยมีสมมติฐานในการศึกษา 2 ข้อ ดังนี้ คือ 1. จำนวนพนักงานทำความสะอาดจะเป็นสิ่งกำหนดความอยู่รอดของกิจการ ผลจากการศึกษาปรากฎว่าไม่เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ และพบว่าประสิทธิภาพของผู้บริหารกิจการ คุณภาพของพนักงานทำความสะอาด และภาวะการแข่งขันมีความสำคัญเป็นลำดับต่อความอยู่รอดของกิจการมากกว่าจำนวนพนักงานทำความสะอาด 2. การรับประกันความซื่อสัตย์ของพนักงานทำความสะอาดของกิจการเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ลูกค้ามีความเชื่อถือ และไว้วางใจในบริการนี้ ผลจากการศึกษาปรากฏว่าเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ ผู้บริหารกิจการได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับความซื่อสัตย์ของพนักงานทำความสะอาดเป็นอย่างมาก พนักงานทำความสะอาดต้องมีหลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน กิจการมีมาตรการควบคุมที่รัดกุมเข้มงวด มีบทลงโทษอย่างหนัก และมีการทำประกันภัยคุ้มครองความเสียหายในทรัพย์สินของลูกค้า ทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นในความรับผิดชอบของธุรกิจบริการนี้ ปัญหาในการจัดการของบริษัทบริการทำความสะอาดอาคารนั้น ได้แก่ ปัญหาเงินทุนดำเนินงาน ปัญหาการบริหารงานบุคคลเกี่ยวกับหัวหน้างานและพนักงานทำความสะอาด ปัญหาเกี่ยวกับลูกค้าและภาวะการแข่งขัน ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงการจัดการด้านการเงิน ควรหาแหล่งเงินกู้ยืมจากธนาคารและสถาบันการเงินให้มีเพียงพอ โดยต้องตระหนักถึงความสำคัญในการใช้เงินกู้นั้นกับความสามารถในการชำระคืนตามกำหนดด้วย ส่วนการบริหารงานบุคคลนั้นต้องเริ่มตั้งแต่การคัดเลือกพนักงานอย่างพิถีพิถัน ควบคุมเข้มงวด และจูงใจให้พนักงานเห็นความสำคัญของการบริการที่มีคุณภาพ บริษัทบริการทำความสะอาดอาคารต่างๆ ควรร่วมมือกันรณรงค์โฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้า และบุคคลทั่วไปได้เข้าใจถึงคุณค่าในการบำรุงรักษาทำความสะอาดทรัพย์สินสถานที่อย่างถูกวิธี ผู้ประกอบการเองก็ต้องเอาใจใส่ในเรื่องคุณภาพของการบริการเสมอๆ และพยายามหลีกเลี่ยงการแข่งขันตัดราคากันกับผู้ประกอบการอื่นๆ แม้ว่าจะมีปัญหาในการบริหารงานของธุรกิจประเภทนี้อยู่บ้าง แต่ผู้บริหารทั้งหลายก็ยังมีความเชื่อมั่นว่า ธุรกิจบริการทำความสะอาดอาคารนี้จะสามารถเจริญเติบโตก้าวหน้าต่อไปได้ในอนาคต
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
จิรบวรพงศา, วีรโชติ, "การศึกษาการจัดการของบริษัทการทำความสะอาดอาคาร" (1986). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 47368.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/47368