Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ปัจจัยคัดสรรที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพการนอนหลับของผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Selected factors related to sleep quality in patients with chronic kidney disease

Year (A.D.)

2006

Document Type

Thesis

First Advisor

ชนกพร จิตปัญญา

Faculty/College

Faculty of Nursing (คณะพยาบาลศาสตร์)

Degree Name

พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

พยาบาลศาสตร์

DOI

10.58837/CHULA.THE.2006.552

Abstract

ศึกษาคุณภาพการนอนหลับของผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง และความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยคัดสรร ได้แก่ อายุ เพศ ปริมาตรเม็ดเลือดแดงอัดแน่น ภาวะโภชนาการ ภาวะยูรีเมีย ชนิดของการรักษา ชนิดของยา สุขลักษณะการนอนหลับ และภาวะซึมเศร้า กับคุณภาพกานนอนหลับของผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง กลุ่มตัวอย่างมีจำนวน 150 คน ที่ได้มาจากการสุ่มกลุ่มตัวย่างแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามประกอบด้วย แบบบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล แบบสอบถามสุขลักษณะการนอนหลับ แบบประเมินภาวะซึมเศร้า และแบบประเมินคุณภาพการนอนหลับ ที่ผ่านการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิ และมีค่าความเที่ยงจากการคำนวณค่าสัมประสิทธิ์อัลฟาของครอนบาคเท่ากับ .81, .91 และ .79 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์ความสัมพันธ์ด้วยไคสแควร์ และสถิติค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. 74.30% ของผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง มีคุณภาพการนอนหลับที่ไม่ดี 2. อายุและภาวะซึมเศร้ามีความสัมพันธ์ทางบวกกับ การนอนหลับที่ไม่ดีของกลุ่มตัวอย่างผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (r = -.193, .586 ตามลำดับ) 3. ปริมาณเม็ดเลือดแดงอัดแน่น ภาวะโภชนาการ และสุขลักษณะการนอนหลับ มีความสัมพันธ์ทางลบกับคุณภาพการนอนหลับที่ไม่ดีของกลุ่มตัวอย่างผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (r = -.325, -337 และ -.290 ตามลำดับ)4. ชนิดการรักษาและการได้รับยาที่เสริมการนอนหลับ มีความสัมพันธ์กับคุณภาพการนอนหลับที่ไม่ดีของกลุ่มตัวอย่างผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (c = .425, .229 ตามลำดับ) 5. เพศ การได้รับยาที่มีฤทธิ์รบกวนการนอนหลับ และภาวะยูรีเมียไม่มีความสัมพันธ์กับคุณภาพการนอนหลับของผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

Other Abstract (Other language abstract of ETD)

To examine the relationships between age, sex, hematocrit, nutritional status, uremia, type of therapy, medication, sleep hygiene practices, depression, and sleep quality. Study participants consisted of 150 patients with chronic kidney disease, selected by multi-stage sampling. The instrument for the study included a demographic data form, a sleep hygiene practices questionnaire, the Center for Epidemiologic Studies-Depression Scale, and the Pittsburgh Sleep Quality Index. The questionnaires were reviewed by a panel of experts for the content validity. Internal consistency reliability determined by Cronbach's alpha were .81, .91, and .79, respectively. Chi square correlation and Pearson product moment correlation were used for statistical analysis. Results were as follows 1. The Sleep Quality Index indicated that 74.70% of the participants had poor sleep quality. 2. Positively significant correlations were detected among age (r =.193), depression (r = .586), and poor sleep quality of patients with chronic kidney disease (p<.05). 3. Negatively significant correlations were detected among hematocrit (r = -.325), nutritional status (r = -.337), sleep hygiene practices (r = -.290), and poor sleep quality of patients with chronic kidney disease (p<.05). 4. Significant correlation was detected between type of therapy (C = .425), medicine (C = .229) and poor sleep quality of patients with chronic kidney disease (p<.05). 5. No significant correlations were detected among sex, uremia, and sleep quality of patients with chronic kidney disease.

Link to Full Text

Share

COinS