Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
การเปรียบเทียบคุณภาพของแบบสอบแบบเลือกตอบและแบบสอบแบบถูกผิด เมื่อใช้ทดสอบกลุ่มนักเรียนที่มีระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแตกต่างกัน
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
A comparison fo the quality of a multiple choice test and true-falst test administered of different groups of learning achievement students
Year (A.D.)
1987
Document Type
Thesis
First Advisor
เยาวดี วิบูลย์ศรี
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
ครุศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
วิจัยการศึกษา
DOI
10.58837/CHULA.THE.1987.405
Abstract
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ เปรียบเทียบความเที่ยง ความตรง อำนาจจำแนก และความยากของแบบสอบแบบเลือกตอบ และแบบสอบแบบถูกผิดที่แปลงมาจากแบบสอบแบบเลือกตอบโดยมีความยาวเป็น 2 เท่าและ 3 เท่า ในกลุ่มนักเรียนที่มีระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูง ปานกลาง ต่ำ และคละกัน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ปีการศึกษา 2527 ที่เรียนวิชาคณิตศาสตร์ (ต. 311) จำนวน 567 คน ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ด้วยวีการสุ่มอย่างมีระบบ เพื่อให้กลุ่มหนึ่งตอบแบบสอบแบบเลือกตอบ กลุ่มหนึ่งสอบแบบสอบแบบถูกผิดที่มีความยาวเป็น 2 เท่า และอีกกลุ่มหนึ่งสอบแบบสอบแบบถูกผิดที่มีความยาวเป็น 3 เท่า กลุ่มละ 189 คน ในแต่ละกลุ่มถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มย่อย 3 กลุ่ม คือกลุ่มที่มีระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูง ปานกลาง และต่ำ โดยแบ่งตามระดับคะแนนเฉลี่ยวิชาคณิตศาสตร์ใน 4ภาคเรียนที่ผ่านมา ซึ่งใช้เป็นเกณฑ์ในการหาความตรงของแบบสอบที่ศึกษาด้วย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือแบบสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ (ค.311) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น 3 แบบคือ แบบสอบแบบเลือกตอบ แบบสอบแบบถูกผิดที่มีความยาวเป็น 2 เท่าและมีข้อผิด 67% ของข้อกระทงทั้งหมด และแบบสอบแบบถูกผิดที่มีความยาวเป็น 3 เท่าและมีข้อผิด 67% ของข้อกระทงทั้งหมด แล้ววิเคราะห์ข้อมูลโดย 1) หาความเที่ยงของแบบสอบโดยใช้สูตร สูตรคูเดอร์ ริชาร์ดสัน 20 แล้วปรับเป็นค่าความเที่ยงของแบบสอบที่ใช้เวลาในการสอบเท่ากัน โดยใช้สูตรสเปียร์แมน บราวน์ 2) หาความตรงร่วมสมัยโดยใช้สูตรสหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน 3) หาค่าอำนาจจำแนกของแบบสอบโดยใช้สูตรสหสัมพันธ์แบบไบซีเรียล 4) หาความยากของแบบสอบ 5) ทดสอบค่าความเที่ยง ค่าความตรง และค่าอำนาจจำแนกของแบบสอบโดยเปลี่ยนเป็นคะแนนมาตรฐานของฟิชเชอร์ แล้วทดสอบด้วยไคสแควร์ 6) ทดสอบค่าความยากโดยใช้การทดสอบมัธยฐาน ผลการวิจัยปรากฏว่า 1. ด้านความเที่ยงของแบบสอบ มีข้อค้นพบดังนี้ 1.1 ความเที่ยงของแบบสอบก่อนปรับทั้ง 3 ฉบับมีค่าไม่แตกต่างกันมีนัยสำคัญทางสถิติ ในกลุ่มนักเรียนที่มีระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูง ปานกลาง และคละกัน ส่วนในกลุ่มนักเรียนที่มีระดับผลฤทธิ์ทางการเรียนต่ำค่าความเที่ยงของแบบสอบแบบถูกผิดทั้ง 2 ฉบับ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 1.2 ค่าความเที่ยงของแบบสอบหลังจากปรับแล้วในกลุ่มสูง และปานกลางทั้ง 3 ฉบับ ไม่แตกต่างกัน ส่วนในกลุ่มต่ำแบบสอบแบบเลือกตอบและแบบสอบแบบถูกผิดที่มีความยาวเป็น 3 เท่ามีความเที่ยงสูงกว่าแบบสอบแบบถูกผิดที่มีความยาวเป็น 2 เท่า และในกลุ่มคละกันแบบสอบแบบเลือกตอบมีค่าความเที่ยงสูงกว่าแบบสอบแบบถูกผิดทั้ง 2 ฉบับอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 2. ด้านความตรงของแบบสอบ แบบสอบทั้ง 3 ฉบับมีค่าความตรงไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ทั้งในกลุ่มนักเรียนที่มีระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สูง ปานกลาง ต่ำ และคละกัน 3. ด้านอำนาจจำแนก แบบสอบทั้ง 3 ฉบับมีอำนาจจำแนกไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 4. ด้านความยาก แบบสอบแบบเลือกตอบยากกว่าแบบสอบแบบถูกผิดทั้ง 2 ฉบับ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนแบบสอบแบบถูกผิดทั้ง 2 ฉบับมีความยากไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ทั้งในกลุ่มนักเรียนที่มีระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูง ปานกลาง ต่ำ และคละกัน
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
อุปริพุทธิกุล, สมศรี, "การเปรียบเทียบคุณภาพของแบบสอบแบบเลือกตอบและแบบสอบแบบถูกผิด เมื่อใช้ทดสอบกลุ่มนักเรียนที่มีระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแตกต่างกัน" (1987). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 46763.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/46763