Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะของความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ในเขตกรุงเทพมหานคร

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A study of understanding concerning the nature of scientific knowledge of the secondary school students in Bangkok Metropolis

Year (A.D.)

1987

Document Type

Thesis

First Advisor

สุนทร ช่วงสุวนิช

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

มัธยมศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1987.368

Abstract

วัตถุประสงค์ของการวิจัย การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะของความรู้ทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนรัฐบาล เขตกรุงเทพมหานคร วิธีดำเนินการวิจัย กลุ่มตัวอย่างประชากรเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 808 คน ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โปรแกรมวิทยาศาสตร์ ปีการศึกษา 2527 จากโรงเรียนมัธยมศึกษา เขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 24 โรง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบวัดความเข้าใจลักษณะของความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ของปีเตอร์ เอ รับบา และฮานส์ โอ แอนเดอร์เสน (Peter A. Rubba and Hans O. Andersen) ซึ่งแบ่งออกเป็น 6 ด้าน ได้แก่ ด้านการนำไปใช้อย่างมีคุณธรรม ด้านความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ด้านพัฒนาการของความรู้ ด้านการใช้ข้อความกะทัดรัด ด้านการตรวจสอบ และด้านสหวิชา วิเคราะห์ข้อมูลโดยคำนวณหาค่ามัชฌิมเลขคณิต (X̅ ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ผลการวิจัย (1) นักเรียนมีความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะของความรู้ทางวิทยาศาสตร์ด้านการนำไปใช้อย่างมีคุณธรรมโดยส่วนรวมอยู่ในระดับปานกลาง แต่เมื่อพิจารณารายละเอียดพบว่านักเรียนมีความเข้าใจอยู่ในระดับมาก คือ การใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ตัวความรู้วิทยาศาสตร์ต้องผ่านการตัดสินด้วยคุณธรรม และการนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์ตัวอย่างหนึ่งไปใช้แล้วไม่เกิดผลดี ตัวความรู้ทางวิทยาศาสตร์นั้นก็ควรถูกพิจารณาว่าไม่ดีด้วย (2) นักเรียนความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะของความรู้ทางวิทยาศาสตร์ด้านความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ โดยส่วนรวมอยู่ในระดับมาก แต่เมื่อพิจารณารายละเอียดพบว่า นักเรียนมีความเข้าใจระดับมาก คือ ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ แสดงให้เห็นความคิดสร้างสรรค์ของนักวิทยาศาสตร์ กฎ ทฤษฎี และมโนมติทางวิทยาศาสตร์แสดงถึงความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้เป็นผลจากจินตนาการของมนุษย์ และความรู้ทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ของนักวิทยาศาสตร์ (3) นักเรียนมีความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะของความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ด้านพัฒนาการของความรู้โดยส่วนรวมอยู่ในระดับปานกลาง แต่เมื่อพิจารณารายละเอียดพบว่า นักเรียนมีความเข้าใจอยู่ในระดับมาก คือ กฎ ทฤษฎี และมโนมติของวิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน อาจต้องเปลี่ยนแปลงหากพบหลักฐานใหม่ และความรู้ทางวิทยาศาสตร์เป็นสิ่งที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอีกต่อไป (4) นักเรียนมีความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะของความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ด้านการใช้ข้อความกะทัดรัด โดยส่วนรวมอยู่ในระดับปานกลาง แต่เมื่อพิจารณารายละเอียดพบว่า นักเรียนมีความเข้าใจอยู่ในระดับมาก คือ ถ้าทฤษฎี 2 ทฤษฎีสามารถอธิบายผลการทดลองได้ดีพอกัน เราจะเลือกทฤษฎีที่ซับซ้อนกว่า (5) นักเรียนมีความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะของความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ด้านการตรวจสอบโดยส่วนรวมอยู่ในระดับมาก แต่เมื่อพิจารณารายละเอียดพบว่า นักเรียนมีความเข้าใจอยู่ในระดับมาก คือ ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ไม่จำเป็นต้องทดสอบได้ด้วยการทดลอง การยอมรับความรู้ทางวิทยาศาสตร์ไม่จำเป็นต้องอาศัยความคงที่ของผลการทดสอบหลายครั้ง หลักฐานที่สนับสนุนความรู้ทางวิทยาศาสตร์ไม่จำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบอย่างเปิดเผยหลักฐานที่สนับสนุนความรู้ทางวิทยาศาสตร์ต้องสามารถกระทำซ้ำได้ และหลักฐานที่สนับสนุนความรู้ทางวิทยาศาสตร์ไม่จำเป็นที่จะต้องทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า (6) นักเรียนความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะของความรู้ทางวิทยาศาสตร์ด้านสหวิชาโดยส่วนรวมอยู่ในระดับมาก แต่เมื่อพิจารณารายละเอียดพบว่า นักเรียนมีความเข้าใจอยู่ในระดับมาก คือ กฎ ทฤษฎี และมโนมติของชีววิทยา เคมี และฟิสิกส์ มีความสัมพันธ์กัน กฎ ทฤษฎี และมโนมติทางชีววิทยา เคมี และฟิสิกส์ไม่เชื่อมโยงกัน กฎ ทฤษฎี และมโนมติทางเคมี ชีววิทยา และฟิสิกส์ ไม่สัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ระหว่างกฎ ทฤษฎี และมโนมติทางวิทยาศาสตร์ไม่มีส่วนช่วยในการอธิบายและความสามารถในการทำนายของวิทยาศาสตร์ และชีววิทยา เคมี และฟิสิกส์ เป็นประเภทของความรู้ที่แตกต่างกัน

Share

COinS