Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ภาคแสดงในประโยคความเดียวของภาษาจีน และภาษาไทย : การศึกษาเปรียบเทียบ

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

The predicate in Chinese and Thai simpls sentences : a comparative study

Year (A.D.)

1987

Document Type

Thesis

First Advisor

ประพิณ มโนมัยวิบูลย์

Second Advisor

นววรรณ พันธุเมธา

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

อักษรศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

ภาษาไทย

DOI

10.58837/CHULA.THE.1987.775

Abstract

วิทยานิพนธ์เล่มนี้ มีจุดประสงค์ที่จะศึกษาเปรียบเทียบภาคแสดงในประโยคความเดียวของภาษาจีนและภาษาไทยว่า มีส่วนประกอบและลักษณะการปรากฏเป็นอย่างไร โดยแยกศึกษาเป็น 4 หัวข้อดังนี้ 1. ภาคแสดงที่คำกริยาไม่ปรากฏ 2. ภาคแสดงที่มีคำกริยาปรากฏแต่ไม่มีคำนามปรากฏ 3. ภาคแสดงที่มีคำกริยา และคำนามปรากฏร่วมกัน 4. ภาคแสดงที่มีคำขยายคำกริยา และคำขยายคำนามที่เป็นกรรม ภาคแสดงที่คำกริยาไม่ปรากฏที่มีส่วนประกอบเหมือนกันในทั้งสองภาษา คือภาคแสดงที่ประกอบด้วยคำนาม ภาคแสดงที่ประกอบด้วยคำสรรพนาม ภาคแสดงที่ประกอบด้วยคำบอกจำนวน ซึ่งมักจะมีคำลักษณนามปรากฏร่วมด้วย และภาคแสดงที่ประกอบด้วยคำคุณศัพท์ นอกจากนี้ในภาษาจีนยังมีภาคแสดงที่มีคำกริยาที่ไม่ปรากฏอีก 2 แบบ คือภาคแสดงที่ประกอบด้วยคำลักษณนามและคำเลียนเสียง คำขยายในภาคแสดงดังกล่าวของทั้งสองภาษามี 4 ชนิดเหมือนกัน คือ คำคุณศัพท์ คำบอกจำนวน ซึ่งมักจะมีคำลักษณนามปรากฏร่วมด้วย คำนามและคำวิเศษณ์ คำขยายชนิดต่างๆเหล่านี้ ในภาษาจีนมีตำแหน่งอยู่หน้าคำที่ถูกขยายเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีคำบางชนิดที่มีตำแหน่งอยู่หลังคำที่ถูกขยาย ในภาษาไทยคำขยาย มีตำแหน่งอยู่หลังคำที่ถูกขยายเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีคำบางชนิดที่มีตำแหน่งอยู่หน้าคำที่ถูกขยาย นอกจากนี้ ในทั้งสองภาษามีคำบางชนิดที่บางคำมีตำแหน่งอยู่หน้า บางคำมีตำแหน่งอยู่หลังคำที่ถูกขยาย ภาคแสดงที่มีคำกริยาปรากฏแต่ไม่มีคำนามปรากฏ ในทั้งสองภาษามีส่วนประกอบเป็นคำกริยา คำขยายคำกริยามี 5 ชนิดเหมือนกันทั้งภาษาจีนและภาษาไทย คือคำวิเศษณ์ คำกริยา คำคุณศัพท์ คำเลียนเสียง และคำบอกจำนวน ซึ่งมักจะมีคำลักษณนามปรากฏร่วมด้วย คำขยายชนิดต่างๆเหล่านี้ บางชนิดมีตำแหน่งอยู่หน้า บางชนิดมีตำแหน่งอยู่หลังคำที่ถูกขยายเหมือนกันทั้งสองภาษา ภาคแสดงที่มีคำกริยาและคำนามปรากฏร่วมกัน คำนามนั้นอาจเป็นกรรมของคำกริยาหรืออาจจะทำหน้าที่ขยายคำกริยา หรือขยายคำนามที่เป็นกรรมอีกทีหนึ่ง คำนามที่เป็นกรรมมีตำแหน่งอยู่หลังคำกริยาทั้งภาษาจีนและภาษาไทย ส่วนคำนามขยายคำกริยา ซึ่งมักจะมีคำบุพบทนำหน้า ในภาษาจีนมีตำแหน่งอยู่หน้าคำกริยา แต่ในภาษาไทยมีตำแหน่งอยู่หลังคำกริยา คำนามขยายคำนามที่เป็นกรรม ในภาษาจีนมีตำแหน่งอยู่หน้าคำนามที่ถูกขยาย แต่ในภาษาไทยมีตำแหน่งอยู่หลังคำนามที่ถูกขยาย ภาคแสดงที่มีคำขยายคำกริยาและคำขยายคำนามที่เป็นกรรม คำขยายคำกริยาในทั้งสองภาษามี 6 ชนิดเหมือนกัน คือ คำวิเศษณ์ คำกริยา คำคุณศัพท์ คำเลียนเสียง คำบอกจำนวน ซึ่งมักจะมีคำลักษณนามปรากฏร่วมด้วย และคำนามซึ่งมักจะมีคำบุพบทนำหน้า คำขยายเหล่านี้ แต่ละชนิดอาจจะขยายคำกริยาตามลำพังหรือร่วมกันขยายคำกริยาก็ได้ คำขยายคำนามที่เป็นกรรม ในทั้งสองภาษามี 4 ชนิดเหมือนกัน คือ คำนาม คำสรรพนาม คำบอกจำนวน ซึ่งมักจะมีคำลักษณนามปรากฏร่วมด้วย และคำคุณศัพท์นอกจากนี้ ในภาษาไทยยังมีคำนิยมวิเศษณ์อีกชนิดหนึ่งที่ใช้ขยายคำนามที่เป็นกรรมได้ คำขยายเหล่านี้ แต่ละชนิดอาจจะขยายคำนามตามลำพัง หรือร่วมกันขยายคำนามก็ได้ ในภาษาจีนคำขยายคำนามที่เป็นกรรม มีตำแหน่งอยู่หน้าคำนาม แต่ในภาษาไทยมีตำแหน่งอยู่หลังคำนามที่เป็นกรรม

Share

COinS