Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การประยุกต์เทคนิคเชิงปริมาณในพยากรณ์ยอดขาย : กรณีศึกษาของผ้าอนามัย

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

The application of quantitative techniques in sales forecasting : a case study of sanitary napkin

Year (A.D.)

1987

Document Type

Thesis

First Advisor

เดวิด แน็ป

Second Advisor

สุภาภรณ์ พลนิกร

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

บริหารธุรกิจ

DOI

10.58837/CHULA.THE.1987.509

Abstract

การวิจัยเรื่องนี้มีจุดมุ่งหมายในการศึกษา เพื่อนำเอาวิธีการทางเทคนิคเชิงปริมาณในการพยากรณ์แบบต่างๆ ซึ่งเป็นวิธีการที่ยังไม่แพร่หลายนักในทางการตลาดในประเทศไทยมาประยุกต์ใช้ประกอบเป็นแนวทางสำหรับตัดสินใจ โดยจะศึกษาเทคนิคการพยากรณ์เชิงปริมาณที่ได้รับความนิยม 3 เทคนิค คือ เทคนิคการปรับให้เรียบ (Smoothing technique) เทคนิคการกรองแบบปรับได้ (Adaptive filtering technique) เทคนิค บอกซ์และเจนกินส์ (Box-Jenkins technique) ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป การพยากรณ์ยอดขาย ถือเป็นจุดสำคัญจุดหนึ่งในการวางแผน และปฏิบัติงานทางด้านการตลาด การพยากรณ์ยอดขายที่แม่นยำย่อมให้ประโยชน์แก่ผู้บริหารการตลาด ปัญหาที่สำคัญคือ การพยากรณ์ในปัจจุบันยังไม่ค่อยมีการนำเอาเทคนิคเชิงปริมาณมาใช้ในการพยากรณ์ยอดขาย แม้ว่าเทคนิคเชิงปริมาณจะมีข้อได้เปรียบในหลายด้านก็ตาม จากเทคนิคดังกล่าวข้างต้น ได้นำมาใช้ทำการพยากรณ์กับข้อมูลอนุกรมเวลาของยอดขายผ้าอนามัยยี่ห้อหนึ่งโดยใช้ข้อมูลยอดขาย 6 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 ถึง พ.ศ. 2527 เพื่อเป็นกรณีศึกษาตัวอย่างพร้อมกับพยากรณ์ยอดขายปี พ.ศ. 2528 เทียบกับยอดขายที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2528 ผลปรากฏว่า ไม่มีเทคนิคการพยากรณ์แบบใดที่สามารถพยากรณ์ยอดขายผ้าอนามัยยี่ห้อดังกล่าวได้ ภายใต้เงื่อนไขความคลาดเคลื่อนของการพยากรณ์เฉลี่ยต่ำกว่า ร้อยละ 15 ผลจากการวิจัย ถ้าตั้งเงื่อนไขของความฉลาดเคลื่อนของการพยากรณ์ที่ต่ำที่สุดที่จะยอมรับเทคนิคการพยากรณ์ได้ ณ จุดต่างๆ จะได้ดังนี้ คือ ที่ร้อยละ 19.0 จะใช้เทคนิคการทำให้เรียบของวินเตอร์ได้ ถ้าเป็นร้อยละ 19.5 จะใช้เทคนิคการกรองแบบปรับให้เรียบได้ สำหรับเกณฑ์ร้อยละ 19.0-19.5 นี้ ผู้วิจัยถือว่าเป็นเกณฑ์ที่ไม่สูงมากพอจะนำมาใช้ในการพิจารณาประกอบการตัดสินใจในการพยากรณ์ยอดขายของสินค้านี้ได้ ส่วนเทคนิคอื่นๆ อีก 3 เทคนิค ที่นำมาทดสอบในการศึกษาครั้งนี้ด้วย ให้ค่าคลาดเคลื่อนมากกว่าร้อยละ 20 ซึ่งมากจนเกินไป การที่ไม่มีเทคนิคการพยากรณ์แบบใดให้ผลการพยากรณ์ตามที่คาดหวังไว้ อาจเนื่องมาจากมีปัจจัยภายนอกตัวอื่นอีกที่ยังไม่ได้นำมาพิจารณา เช่นพฤติกรรมของข้อมูลถูกเปลี่ยนไปเนื่องจากช่องทางการจำหน่าย หรือสภาวะการตลาดที่มีการแข่งขันสูง อันเป็นจุดอ่อนของเทคนิคเชิงปริมาณแบบอนุกรมเวลาซึ่งมิได้นำเอาปัจจัยอื่นๆ เข้ามาพิจารณาด้วย นอกเหนือจากเวลาและตัวแปรตามหนึ่งตัว ซึ่งในที่นี้คือยอดขาย

Share

COinS