Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

วิเคราะห์การกระจายของแรงเค้นจากการเคลื่อนฟันเขี้ยว โดยวิธีโฟโตอีลาสติก

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Analysis of stress due to canine retraction by photoelasic technic

Year (A.D.)

1987

Document Type

Thesis

First Advisor

สมรตรี วิถีพร

Second Advisor

วุทธิพันธุ์ ปรัชญพฤทธิ์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ทันตแพทยศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

ทันตกรรมจัดฟัน

DOI

10.58837/CHULA.THE.1987.472

Abstract

วัตถุประสงค์ของการวิจัย เพื่อศึกษาการกระจายของความเค้นที่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนฟันเขี้ยวด้วยวิธีการและขนาดแรงต่างๆ กัน และศึกษาวิธีการที่เหมาะสมในการเคลื่อนฟันเขี้ยวทั้งซี่ฟัน วิธีดำเนินการวิจัย การวิจัยกระทำในแบบจำลองฟันซึ่งจำลองลักษณะการเรียงตัวของฟันในขากรรไกรล่าง เมื่อถอนฟันกรามน้อยซี่ที่หนึ่งไปเพื่อการจัดฟัน ประกอบด้วยฟันเขี้ยว ฟันกรามน้อยซี่ที่สอง ฟันกรามซี่ที่หนึ่งฝังอยู่ในสารไบรีฟรินเจน การกระจายของความเค้นซึ่งเกิดขึ้นจากเครื่องมือเคลื่อนฟันเขี้ยว 5 ชนิด ได้แก่ ฮิวเจอร์ สปริง ขนาด 0.016x0.016 นิ้ว เกเบอร์ แองเกิล 22.5 องศา โทอิน 15 องศา สปริงชนิดเกลียวปิดขนาด 0.009x0.030 นิ้ว ยางขนาด 1/4 นิ้ว 3(1/2) ออนซ์ และยางขนาด 1/4 นิ้ว 3(1/2) ออนซ์ ร่วมกับเคไนน์ แคป ศึกษาด้วยวิธีโฟโตอีลาสติก สรุปผลการวิจัย 1. การกระจายของความเค้นที่เกิดขึ้นในการเคลื่อนฟันเขี้ยวปรากฏผลดังนี้ 1.1 ฮิลเจอร์ สปริง และโคลสซิง ลูป ให้การกระจายของความเค้นคล้ายคลึงกัน คือการทำเบเกอร์ แองเกิล ทำให้เกิดโมเมนต์เคลื่อนปลายรากฟันเขี้ยวไปทางด้านไกลกลางเพื่อเตรียมรากฟันก่อนการดึงฟันเขี้ยวให้เคลื่อนที่ไป สำหรับการเคลื่อนที่เฉพาะส่วนตัวฟันเกิดขึ้นเมื่อกระตุ้นฮิลเจอร์สปริงและโคลสซิง ลูป ด้วยแรง 100 กรัม และ 300 กรัมขึ้นไป ตามลำดับ ส่วนการสูญเสียหลักยึดเกิดขึ้นเมื่อใช้สปริงทั้งสองด้วยแรง 150 กรัม และ 300 กรัมขึ้นไปตามลำดับ 1.2 สปริงเกลียวปิด และยาง ให้ผลการกระจายของความเค้นคล้ายคลึงกัน คือ เครื่องมือทั้งสองชนิดไม่สามารถทำให้เกิดโมเมนต์เพื่อเคลื่อนปลายรากฟันเขี้ยวไปทางด้านไกลกลางก่อนการดึงฟันเขี้ยวให้เคลื่อนที่ไป จึงพบการเคลื่อนที่เฉพาะส่วนตัวฟันเพียงอย่างเดียว การสูญเสียหลักยึดเกิดขึ้น เมื่อกระตุ้นสปริงเกลียวปิดและยางด้วยแรง 250 และ 331.29 กรัม ขึ้นไปตามลำดับ 1.3 ยางร่วมกับเคไนน์ แคป พบว่าการใช้เคไนน์ แคป เป็นการเปลี่ยนตำแหน่งของแรงที่กระทำต่อฟันเขี้ยวให้เข้าใกล้กับจุดศูนย์กลางความต้านทานของฟันมากขึ้น การเคลื่อนเฉพาะส่วนตัวฟันเกิดขึ้นเมื่อใช้แรง 112.06 กรัมขึ้นไป ขณะเดียวกันการสูญเสียหลักยึดเกิดขึ้นเมื่อใช้ยางด้วยแรง 336.18 กรัมขึ้นไป 1.4 การผูกฟันกรามน้อยและฟันกรามเข้าด้วยกัน ทำให้การกระจายของความเค้นที่ฟันทั้งสองซี่ลดลง ช่วยเพิ่มหลักยึดขณะเคลื่อนฟันเขี้ยว 2. วิธีการที่เหมาะสมในการเคลื่อนฟันเขี้ยวทั้งซี่ฟัน ควรทำให้เกิดสัดส่วนของโมเมนต์ต่อแรงเท่ากับ 8:1 ซึ่งได้แก่ ฮิลเจอร์ สปริง โคลสซิง ลูป และยางร่วมกันเคไนน์ แคป ขนาดแรงอยู่ในช่วง 50-100 กรัม 200-300 กรัม และ 50-100 ตามลำดับ

Share

COinS