Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
การศึกษาปัจจัยคัดสรรที่ส่งผลและที่รับผลของแบบการเรียน ของนักศึกษาพยาบาล
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
A study of selected antecedent and consequent factors of nursing student's learning styles
Year (A.D.)
1987
Document Type
Thesis
First Advisor
ชัยพร วิชชาวุธ
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
ครุศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
จิตวิทยา
DOI
10.58837/CHULA.THE.1987.175
Abstract
การวิจัยครั้งนี้มุ่งศึกษาแบบการเรียนของนักศึกษาพยาบาล และศึกษาตัวแปรที่คาดว่าจะเป็นตัวแปรส่งผลต่อแบบการเรียน ได้แก่ สถาบันการศึกษา ระดับชั้นปี สถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคม ภูมิลำเนาเดิมและการรับรู้ความน่าปรารถนาของวิชาชีพพยาบาล ตลอดจนศึกษาตัวแปรที่คาดว่า น่าจะเป็นตัวแปรรับผลของแบบการเรียน ได้แก่ สัมฤทธิผลทางการเรียน ความพึงพอใจในการเรียนพยาบาล และความตั้งใจที่จะประกอบวิชาชีพพยาบาล กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาพยาบาลระดับปริญญาตรี ชั้นปีที่1 และปีที่4 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ของปีการศึกษา 2529 ของสถาบันการศึกษาพยาบาล 5 สังกัด ในกรุงเทพมหานคร จำนวน 584 คนเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือแบบสำรวจแบบการเรียนที่สร้างตามทฤษฏีการเรียนรู้เชิงประสบการณ์ของคอล์บ (Kolb, Rubin and McIntyre 1971; Kolb 1954; Wolfe and Kolb 1984)จากการนำแบบสำรวจไปทดลองใช้ พบว่าค่าความเที่ยงของลักษณะการเรียนรู้ต่าง ๆ มีค่าตั้งแต่ 0.61 ถึง 0.74 และเมื่อพิจารณาแบบสำรวจทั้งฉบับ ซึ่งรวมลักษณะการเรียน ทั้งสี่เข้าด้วยกัน พบว่า ค่าความเที่ยงเท่ากับ 0.83 สถิติที่ใช้ในการวิจัยคือ การทดสอบไคสแควร์ ค่าสหสัมพันธ์เพียร์สัน สมการถดถอยอย่างง่าย และสมการถดถอยพหุคูณ โดยวิเคราะห์ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ โปรแกรมสำเร็จรูป เอส พี เอส เอส เอ็กซ์ ผลการวิจัยพบว่า1. นักศึกษาพยาบาลมีแบบการเรียนแตกต่างกัน โดยที่มีการเรียนแบบดูดซึมมากที่สุด รองลงมาไค้แก่ แบบคิดเอกนัย แบบปรับปรุง และ แบบคิดอเนกนัย ตามลำดับ และเน้นที่ลักษณะสรุปเป็นหลักการนามธรรมมากกว่าลักษณะอื่น ๆ 2. ตัวแปรที่ส่งผลต่อแบบการเรียนต่าง ๆ ได้แก่ 2.1 มีภูมิลำเนาเดิมอยู่ในกรุงเทพฯ ส่งผลให้มีการเรียนแบบประสบการณ์เชิงรูปธรรม มากกว่าการมีภูมิลำเนาเดิมอยู่ในส่วนภูมิภาค 2.2 การเรียนในวิทยาลัยพยาบาลเกื้อการุณย์ ส่งผลให้มีการเรียนแบบทดลองปฏิบัติจริงมากกว่าสถาบันอื่น ๆ 2.3 การรับรู้ความน่าปรารถนาของวิชาชีพในระดับสูง ส่งผลให้มีการเรียนแบบคิดอเนกนัย น้อยกว่าการรับรู้ ความน่าปรารถนาของวิชาชีพในระดับต่ำ 2.4 การเรียนในวิทยาลัยพยาบาลกรุงเทพฯ ส่งผลให้ มีการเรียนแบบคิดเอกนัย มากกว่าสถาบันอื่น ๆ 2.5 การเรียนในวิทยาลัยพยาบาลสภากาชาดไทย ส่งผลให้มีการเรียนแบบปรับปรุง น้อยกว่าการเรียนในสถาบันอื่น ๆ 3. ตัวแปรที่รับผลของแบบการเรียน ได้แก่ 3.1 ความพึงพอใจในการเรียนพยาบาล รับผลทางลบจากการเรียนแบบคิดอเนกนัย 3.2 ความตั้งใจที่จะประกอบวิชาชีพพยาบาล รับผลทางบวก จากการเรียนแบบไตร่ตรอง 4. ผลการวิเคราะห์แบบจำลองเส้นโยงเต็มรูป ตามข้อมูลประจักษ์ และการสมมติ ได้ผลดังนี้ 4.1 ตัวแปรที่ส่งผลและที่รับผลโดยผ่านแบบการเรียนได้แก่ การรับรู้ความน่าปรารถนาของวิชาชีพพยาบาลในระดับสูง ส่งผลให้มีการเรียนแบบคิดอเนกนัย น้อยกว่าการรับรู้ ความน่าปรารถนาของวิชาชีพพยาบาลในระดับต่ำ และการเรียนแบบคิดอเนกนัย ส่งผลให้มีดวามพึงพอใจในการเรียนพยาบาลในระดับต่ำ 4.2 ตัวแปรที่ส่งผลและที่รับผลโดยไม่ผ่านแบบการเรียน 1) การมีสถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคมสูง ทำให้ นักศึกษามีสัมฤทธิ์ผลทางการเรียน ความพึงพอใจในการเรียนพยาบาล และความตั้งใจที่จะประกอบวิชาชีพพยาบาล ต่ำกว่าการมีสถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคมต่ำ 2) การเรียนในคณะพยาบาลศาสตร์ศิริราช ส่งผลให้มีความตั้งใจที่จะประกอบวิชาชีพพยาบาล น้อยกว่าสถาบันอื่น ๆ 3) การเรียนในวิทยาลัยพยาบาลเกื้อการุณย์ ส่งผลให้ มีสัมฤทธิผลทางการเรียนสูงกว่าสถาบันอื่น ๆ 4) การรับรู้ความน่าปรารถนาของวิชาชีพพยาบาลในระดับสูง ส่งผลให้นักศึกษามีความพึงพอใจในการเรียนพยาบาล และมีความตั้งใจที่จะประกอบวิชารชีพพยาบาล มากกว่าการรับรู้ความน่าปรารถนาของ วิชาชีพพยาบาลในระดับต่ำ
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
เกียรตินันทวิมล, พัชรี, "การศึกษาปัจจัยคัดสรรที่ส่งผลและที่รับผลของแบบการเรียน ของนักศึกษาพยาบาล" (1987). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 46413.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/46413