Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
การศึกษาเพื่อกำหนดบทบาทและหน้าที่ของชุมชนเมืองในเขตปริมณฑล ของกรุงเทพมหานคร
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
The role and function of cities in the vicinity of Bangkok Metroplis
Year (A.D.)
1987
Document Type
Thesis
First Advisor
เกียรติ จิวะกุล
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
การวางแผนภาคและเมืองมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
การวางแผนภาค
DOI
10.58837/CHULA.THE.1987.117
Abstract
ปัญหาความแตกต่างของการพัฒนาเศรษฐกิจระหว่าง "กรุงเทพมหานคร" กับเมือง อื่นๆ ของประเทศ ได้ทำให้เกิดความไม่สมดุลของระบบเมืองขึ้นทั้งขนาดและระดับความเจริญ และการกระจายตัวประชากร ซึ่งนอกจากจะก่อให้เกิดปัญหานับประการแก่กรุงเทพมหานครเองแล้ว ยังก่อให้เกิดความล้าหลังแก่เมืองอื่นๆ ในภูมิภาคด้วย แนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวประการหนึ่ง ได้แก่การพยายามที่จะชลอความเจริญของกรุงเทพมหานครลง พร้อมทั้งกระจายกิจกรรมหลักด้านที่อยู่อาศัยพาณิชยกรรมและด้านอุตสาหกรรมออกไปสู่พื้นที่รอบๆ 2 บริเวณคือ บริเวณแรกในพื้นที่เขตปริมณฑล และบริเวณที่ 2 ในเมืองศูนย์กลางความเจริญในภูมิภาค โดยเน้นพื้นที่ที่มีศักยภาพพัฒนาสูง คือพื้นที่บริเวณชุมชนเมืองก่อน การวิจัยครั้งนี้ ได้กำหนดพื้นที่เขตปริมณฑลเป็นพื้นที่ศึกษา เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีที่ตั้งสัมพันธ์ (Relalive Location) รอบๆ กรุงเทพมหานคร สำหรับวัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้ เพื่อเสนอแนะบทบาทและหน้าที่ของชุมชนเมืองที่มีศักยภาพพัฒนาในระดับสูง ว่าจะรองรับกิจกรรมและมีบทบาทร่วมกับกรุงเทพมหานครได้อย่างไร โดยได้แบ่งการวิจัยเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 เป็นการศึกษามหภาคพื้นที่พัฒนา (Macro Framework) ซึ่งเป็นการศึกษาสภาพ และแนวโน้มด้านประชากร โครงสร้างพื้นฐาน เศรษฐกิจและบริการด้านสังคม โดยเน้นศึกษาการเคลื่อนย้าย (Flow) และความเชื่อมโยง (Linkage) ของกิจกรรมต่างๆ ที่กล่าวแล้ว ได้เสนอแนะภาพรวมศักยภาพพื้นที่พัฒนา เป็นรูปแบบฉนวนพัฒนาและเมืองบริวาร (Self-contained and Corridor Development) โดยกำหนดให้มีฉนวนพัฒนาหลัก 4 แนว ได้แก่ แนวฉนวนพัฒนาด้านเหนือ ตะวันตก ตะวันตกเฉียงใต้ และแนวฉนวนพัฒนาด้านตะวันออกเฉียงใต้ ในขณะเดียวกัน การศึกษาในส่วนที่ 2 ได้ศึกษาวิวัฒนาการและปัญหาของเมือง แล้วได้จัดลำดับความสำคัญของชุมชนเมืองทั้ง 47 แห่ง พบว่าเมืองที่มีการพัฒนาในระดับสูงมี 12 แห่ง ได้แก่เทศบาลเมืองนครปฐม เทศบาลเมืองสมุทรปราการ สุขาภิบาลพระประแดง เทศบาลเมืองนนทบุรี สุขาภิบาลปากเกร็ด สุขาภิบาลสำโรงเหนือ เทศบาลเมืองสมุทรสาคร สุขาภิบาลคลองหลวง เทศบาลเมืองพระประแดง สุขาภิบาลประชาธิปัตย์ และสุขาภิบาลบางปู และเมื่อพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างที่ตั้งและค่าระดับพัฒนาชุมชน พบว่า ชุมชนในแนวพื้นที่สำโรงเหนือ-พระประแดง-สมุทรปราการ-บางปู และชุมชนในแนวพื้นที่นนทบุรี-ปากเกร็ด-ปทุมธานี-คลองหลวง เป็นแนวการกระจายตัวที่มีลักษณะเด่น และชุมชนส่วนใหญ่จะมีอาณาเขตที่ต่อเนื่องกับกรุงเทพมหานคร นอกจากนั้นการศึกษายังพบว่ามีพื้นที่ที่เด่นมาก ได้แก่ชุมชนนครปฐมและสมุทรสาคร แม้ที่ตั้งจะห่างไกลออกไปแต่ค่าระดับการพัฒนาก็อยู่ในระดับสูง หลังจากได้ประสมประสานการศึกษาทั้งส่วนมหภาคและระดับชุมชนเข้าด้วยกัน แล้วได้เสนอแนะบทบาทและหน้าที่ของชุมชนเมืองให้สอดคล้องกับศักยภาพพื้นที่พัฒนา โครงการหลักที่เกี่ยวข้อง ด้านที่อยู่อาศัยของการเคหะแห่งชาติ และนิคมอุตสาหกรรมของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย แล้วได้เสนอแนะบทบาทและหน้าที่ของเมืองและกลุ่มเมืองในพื้นที่ที่เขตปริมณฑล ดังนี้ : นครปฐม กำหนดให้เป็นชุมชนสมบูรณ์แบบในตัวเอง มีบทบาทในฐานะเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่ง การปกครองและการศึกษา ซึ่งนอกจากจะให้บริการภายในชุมชนแล้ว ยังมีอิทธิพลต่อเนื่องไปรอบชุมชนอีกด้วย : สมุทรปราการ กำหนดให้เป็นศูนย์การบริหารราชการและที่อยู่อาศัย : พระประแดง เป็นชุมชนอุตสาหกรรมที่ต้องจำกัดการขยายตัวของพื้นที่ : นนทบุรี-ปากเกร็ด กำหนดเป็นแหล่งที่พักอาศัย : สำโรงเหนือ มีบทบาทเป็นชุมชนพาณิชย์กรรม : สมุทรสาคร กำหนดให้เป็นชุมชนสมบูรณ์แบบในตัวเองเช่นเดียวกับชุมชนนครปฐม มีบทบาทเป็นชุมชนอุตสาหกรรม เน้นการแปรรูปจากผลิตภัณฑ์จากทะเล : คลองหลวง-ประชาธิปัตย์ กำหนดบทบาทหน้าที่ให้สอดคล้องและเสริมกัน โดยให้ชุมชนคลองหลวงเป็นชุมชนอุตสาหกรรมที่เน้นการผลิตส่งออก ในขณะที่ชุมชนประชาธิปัตย์ ทำหน้าที่เป็นชุมชนพาณิชย์และบริการ : ปทุมธานี กำหนดให้เป็นศูนย์กลางปกครองของจังหวัด และแหล่งที่พักอาศัย : พระประแดง (เทศบาลเมือง) มีบทบาทหน้าที่ด้านพาณิชย์กรรมและที่อยู่อาศัย : กลุ่มพื้นที่สามพราน-อ้อมใหญ่ ได้เสนอแนะให้กำหนดพื้นที่บริเวณนี้เป็นชุมชนอุตสาหกรรมแปรรูปผลผลิตด้านกสิกรรม : กลุ่มพื้นที่อ้อมน้อย-กระทุ่มแบน ได้เสนอแนะให้กำหนดพื้นที่บริเวณนี้เป็นชุมชนอุตสาหกรรมเช่นกัน แต่ให้เน้นการผลิตที่ไม่ใช่ด้านเกษตรกรรม การวิจัยครั้งนี้ มีลักษณะการเสนอบทบาทและหน้าที่ของชุมชนเมืองที่ควรจะเป็นภายใต้วิธีการการวิเคราะห์ด้านพื้นที่ (Area Approach) กรอบนโยบายพัฒนาหลัก ผนวกกับการวิเคราะห์ข้อมูล สภาพการณ์ ความสัมพันธ์ของกิจกรรมบนพื้นที่ การกำหนดบทบาทและหน้าที่ของชุมชนเมืองดังที่ได้กล่าวแล้ว อาจใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกที่ตั้งของกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้ที่ดินต่อไป สำหรับลักษณะเด่นของวิทยานิพนธ์ฉบับนี้ จะอยู่ที่การนำไมโครคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์ทุกขั้นตอน
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
เกตตะพันธุ์, วิชัย, "การศึกษาเพื่อกำหนดบทบาทและหน้าที่ของชุมชนเมืองในเขตปริมณฑล ของกรุงเทพมหานคร" (1987). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 46382.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/46382