Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาเปรียบเทียบต้นทุนและผลตอบแทนจากการลงทุนผลิตไข่ไก่ ระหว่างระบบการเลี้ยงแบบขังกรงตับและแบบปล่อยพื้น

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Comparative study on cost and return on investment between battery cage and litter floor system

Year (A.D.)

1987

Document Type

Thesis

First Advisor

รักษ์ สุวเทพ

Second Advisor

ธารี หิรัญรัศมี

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

บัญชีมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

การบัญชี

DOI

10.58837/CHULA.THE.1987.537

Abstract

วิทยานิพนธ์นี้เป็นการศึกษาเปรียบเทียบถึงต้นทุนและผลตอบตอบแทนจากการลงทุนผลิตไข่ไก่ระหว่างระบบการเลี้ยงแบบขังกรงตับและแบบปล่อยพื้น โดยการออกแบบสอบถาม และการสัมภาษณ์เจ้าของฟาร์มไข่ไก่จำนวน 30 ราย ในเขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี จังหวัดนครปฐม จังหวัดชลบุรี จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดนครราชสีมา โดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive sampling) ในระวห่างเดือนธันวาคม 2527 ถึงเดือนมกราคม 2529 โดยแบ่งขนาดการเลี้ยงออกเป็น 3 ขนาดคือ ขนาดการเลี้ยง 1-10,000 ตัว ขนาดการเลี้ยง 10,001-50,000 ตัวขึ้นไป และขนาดการเลี้ยง 50,000 ตัวขึ้นไป นอกจากนี้ยังได้รวบรวมข้อมูลจากหนังสือ เอกสารและรายงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ผลจากการศึกษาปรากฏว่า การเลี้ยงไก่ไข่นั้นผู้เลี้ยงจะเริ่มมีรายได้จากการขายผลผลิตคือ ไข่ไก่ ตั้งแต่แม่ไก่มีอายุ 21 สัปดาห์ขึ้นไป แม่ไก่จากการเลี้ยงแบบขังกรงตับและแบบปล่อยพื้นจะมีต้นทุนเฉลี่ยตัวละ 218.42 บาท แลพ 230.53 บาท ตามลำดับ จะเห็นว่าการเลี้ยงไก่ไข่แบบขังกรงตับให้ไข่ไก่ที่ต่ำกว่าการลี้ยงไก่ไข่แบบปล่อยพื้นอยู่ตัวละ 12.11 บาท ซึ่งผลแตกต่างของต้นทุนส่วนใหญ่มาจากค่าอาหารซึ่งการเลี้ยงไก่ไข่แบบปล่อยพื้นเสียต้นทุนด้านอาหารสูงกว่าการเลี้ยงไก่ไข่แบบขังกรงตับ จากการศึกษาถึงผลตอบแทนปรากฏว่า แม่ไก่ไข่จากการเลี้ยงแบบขังกรงตับและแบบปล่อยพื้นจะให้ไข่ไก่ 230 ฟองต่อปีและ 225 ฟองต่อปี ตามลำดับ ทำให้ไข่ไก่ที่ได้จากการเลี้ยงแบบขังกรงตับมีต้นทุนฟองละ 0.95 บาท และไข่ไก่ที่ได้จากการเลี้ยงแบบปล่อยพื้นมีต้นทุนฟองละ 1.02 บาท ตามลำดับ ความแตกต่างของต้นทุนไข่ไก่นี้เป็นผลจากต้นทุนการเลี้ยงแม่ไก่ซึ่งแบบขังกรงตับต่ำกว่าแบบปล่อยพื้นที่ และจำนวนผลผลิตซึ่งแบบขังกรงตับสูงกว่าแบบปล่อยพื้นจากการวิเคราะห์อัตราผลการตอบแทนจากการเลี้ยงไก่ไข่ สรุปได้ว่า การเลี้ยงไก่ไข่แบบขังกรงตับให้กำไรที่เป็นเงินสดสูงกว่าการเลี้ยงแบบปล่อยพื้น เท่ากับ 27.58 กล่าวคือแบบขังกรงตับให้กำไรที่เป็นเงินสด เท่ากับ 83.40 บาท และแบบปล่อยพื้นให้กำไรที่เป็นเงินสดเท่ากับ 55.82 บาท เปรียบเทียบอัตราส่วนระหว่างค่าใช้จ่ายทั้งหมดของฟาร์ม เท่ากับ 0.82 และ 0.88 ตามลำดับ เปรียบเทียบรายได้ทั้งหมดของฟาร์มต่อค่าใช้จ่ายในการดำเนินการที่เป็นตัวเงินเท่ากับ 1.38 และ 1.23 ตามลำดับ เปรียบเทียบรายได้เหนือค่าใช้จ่ายที่แท้จริง (หมายถึงค่าใช้จ่ายที่เป็นตัวเงินบวกค่าเสื่อมราคา) ต่อต้นทุนการเบี้ยง เท่ากับ 0.27 ละ 0.18 ตามลำดับ และสำหรับราคาคุ้มทุนนั้น เท่ากับ 0.95 บาทและ 1.02 บาท ตามลำดับ ทั้งนี้จากการเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายคงที่น้อยกว่าวิธีการเลี้ยงแบบขังกรงตับ แต่เมื่อพิจารณาถึงค่าใช้จ่ายรวมแล้ว วิธีการเลี้ยงแบบขังกรงตับจะเสียค่าใช้จ่ายต่ำกว่าแบบปล่อยพื้น เนื่องจากวิธีการเลี้ยงแบบปล่อยพื้นนั้นเสียต้นทุนค่าอาหารซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายผันแปรและเป็นต้นทุนส่วนใหญ่ในการเลี้ยงไก่ไข่สูงกว่าแบบขังกรงตับ ปัญหาที่สำคัญของผู้เลี้ยงไก่ไข่ คือปัญหาการเลี้ยง ปัญหาต้นทุนการผลิต และปัญหาด้านการตลาด ผลจากการศึกษามีข้อเสนอแนะประการ คือ ประการที่หนึ่ง ผลู้เลี้ยงจะต้องให้การดูแลและเอาใจใส่ต่อแม่ไก่อย่างดีที่สุดว่าจะเป็นการจัดการภายในโรงเรือน การให้อาหารหรือการวางโปรแกรมวัคซีนเพื่อป้องโรคต่างๆ เพื่อที่แม่ไก้จะได้แข็งแรงสมบูรณ์และให้ผลผลิตสูงสุด ประการที่สองเพื่อลดต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นมากในปัจจุบัน ควรเลือกใช้สูตรอาหารที่ใช้วัตถุดิบราคาถูกและหาซื้อง่าย แต่ให้คุณค่าอาหารครบถ้วน การประหยัดค่าแรงโดยการเลือกใช้แรงงานที่มีคุณภาพในท้องถิ่นหรือใช้แรงงานในครัวเรือน และต้องพยายามลดการสูญเสียของฝูงหรือการสูญเสียของผลผลิตให้มากที่สุด นอกจากนี้ควรพยายามเพิ่มผลผลิตให้สูงที่สุดและควรมีการจดบันทึกค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นเพื่อประโยชน์ในการคิดค้นต้นทุนการผลิต และประการที่สามเนื่องจากตลาดการค้าไข่ไก่เป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง ทำให้ผู้เลี้ยงไม่สามารถกำหนดราคาขายของไข่ไก่ได้ จึงควรหาทางระบายไข่ไก่ไป่จำหน่ายต่างประเทศเพื่อไม่ให้มีไข่ไก่ในตลาดภายในประเทศมากจนเกินความต้องการภายในประเทศอันจะทำให้ราคาไข่ไก่ตกต่ำลง ซึ่งลู่ทางในการจำหน่ายไข่ไก่ ในตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะฮ่องกงนั้นมีทางเป็นไปได้มากเนื่องจากความสดของไข่ไก่จากประเทศไทย รัฐควรจะขยายตลาดต่างประเทศและส่งเสริมเพื่อเพิ่มการส่งออกมากขึ้น

Share

COinS