Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล เชาวน์อารมณ์ และการได้รับการเสริมสร้างพลังอำนาจในงาน จากหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาล กับสมรรถนะในบทบาทด้านบริหารจัดการ ของหัวหน้าหอผู้ป่วยโรงพยาบาลศูนย์

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Relationships between personal factors, emotional quotient, job empowerment by nurse directors, and managerial role competencies of head nurses, regional hospital and medical centers

Year (A.D.)

2001

Document Type

Thesis

First Advisor

อรพรรณ ลือบุญธวัชชัย

Faculty/College

Faculty of Nursing (คณะพยาบาลศาสตร์)

Degree Name

พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

การบริหารการพยาบาล

DOI

10.58837/CHULA.THE.2001.538

Abstract

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงบรรยาย เพื่อศึกษาสมรรถนะในบทบาทด้านบริหารจัดการ เชาวน์อารมณ์การได้รับการเสริมสร้างพลังงานอำนาจในงาน ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล เชาวน์อารมณ์ของหัวหน้าหอผู้ป่วย การได้รับการเสริมสร้างพลังอำนาจในงานจากหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาล กับสมรรถนะในบทบาทด้านบริหารจัดการของหัวหน้าหอผู้ป่วย กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาคือ หัวหน้าหอผู้ป่วยที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลศูนย์จำนวน 299 คน ซึ่งได้จากการสุ่มแบบแบ่งชั้น เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล แบบวัดเชาวน์อารมณ์ การได้รับการเสริมสร้างพลังอำนาจในงาน และสมรรถนะในบทบาทด้านบริหารจัดการ ค่าความเที่ยงของแบบวัดมีค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาครอนบาค เท่ากับ .90 .83 และ .71 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์หาความสัมพันธ์โดยหาค่าสัมประสิทธิ์และสมการถดถอยพหุคูณแบบเพิ่มตัวแปรเป็นขั้นตอน ผลการวิจัยพบว่า 1. สมรรถนะในบทบาทด้านบริหารจัดการของหนัวหน้าหอผู้ป่วยในระดับสูงทั้งโดยรวมและรายด้าน (x̅=4,02) 2. ตัวแปรที่มีความสัมพันธ์ทางบวกกับสมรรถนะในบทบาทด้านบริหารจัดการของหนัวหน้าหอผู้ป่วยอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ได้แก่ การได้รับการเสริมสร้างพลังอำนาจในงานและเชาวน์อารมณ์ (r = .454 และ .148) 3. การได้รับการเสริมสร้างพลังอำนาจในงานจากหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลและเชาวน์อารมณ์สามารถร่วมกันพยากรณ์สมรรถนะในบทบาทด้านบริหารจัดการของหัวหน้าหอผู้ป่วยอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 สามารถอธิบายได้ร้อยละ 20.60(R2 = .206) ดังสามการพยากรณ์ดังนี้ สมการพยากรณ์ในรูปคะแนนมาตรฐาน Zcompc = .450• Zcmp + .140• Zcq

Other Abstract (Other language abstract of ETD)

The purposes of this descriptive research were to study managerial role competencies, to determine the relationships between emotional quotient, job empowerment by directors and managerial role competencies of head nurses, and to determine the variables that could be able to predict the managerial role competencies of head nurses. Samples consisted of 299 head nurses in regional hospital and medical centers selected by stratified sampling technique. The research instruments were personal factors questionnaire, emotional quotient inventory (Bar-On EQ-I), job empowerment and managerial role competencies questionnaire. These instruments were tested for content validity by experts and Alpha Cronbach reliability coefficiency. The internal reliability of the scales were .90, .83, .71 respectively. The data were analyzed by using Pearson’s product moment correlation and Stepwise multiple regresstion analysis. The major findings were as follows : 1. Managerial role competencies of head nurses in all aspects were at the high lcvel (x̅=4.02) 2. There were positively significant relationships between job empowerment with managerial role competencies and emotional quotient of head nurses, at the .05 level (r = .454 และ .148) 3. Job empowerment and emotional quotient were significantly predicted managerial role competencies of head nurses at the .05 level. These predictors accounted for 20.60 percent (R2 = .206) of the variance The standardized equation derived from the analysis was : Zcompc = .450• Zcmp + .140• Zcq

Link to Full Text

Share

COinS