Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
ปัญหาการใช้หลักสูตรวิชาสุขศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น พุทธศักราช 2521 ตามการรับรู้ของครูสุขศึกษา เขตการศึกษา 8
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Problems of the implementation of Health Education Curriculum at the lower Secondary Education level B.E.2521 as perceived by gealthe education teachers, Educational Region Eight
Year (A.D.)
1988
Document Type
Thesis
First Advisor
เทพวาณี หอมสนิท
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
ครุศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
พลศึกษา
DOI
10.58837/CHULA.THE.1988.238
Abstract
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบปัญหาการใช้หลักสูตรวิชาสุขศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น พุทธศักราช 2521 ตามการรับรู้ของครูสุขศึกษา เขตการศึกษา 8 ตามตัวแปรพื้นฐานการศึกษาของครูสุขศึกษา โดยแยกออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ กลุ่มที่ 1 วิชาเอก/โทสุขศึกษา กลุ่มที่ 2 วิชาเอก/โทพลศึกษา กลุ่มที่ 3 วิชาเอก/โทอื่น ๆ ผู้วิจัยส่งแบบสอบถามไปยังกลุ่มประชากรซึ่งเป็นครูสุขศึกษาในโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดกรมสามัญศึกษา เขตการศึกษา 8 จำนวน 337 คน ได้รับแบบสอบถามคืนมา 312 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 92.58 ผู้วิจัยนำแบบสอบถามมาวิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-way Analysis of Variance) และทดสอบรายคู่โดยวิธีของเชอเฟ (Scheffe’ test) ผลการวิจัยพบว่า 1. ครูสุขศึกษามีปัญหาการใช้หลักสูตรวิชาสุขศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น พุทธศักราช 2521 โดยเฉลี่ยอยู่ในระดับน้อยทั้ง 7 ด้าน คือ ด้านจุดประสงค์ของหลักสูตร โครงสร้างของหลักสูตร เนื้อหาวิชาตามหลักสูตร หนังสือเรียนและหนังสืออ่านประกอบ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน การวัดและประเมินผล และกิจกรรมเสริมหลักสูตร สำหรับปัญหาการใช้หลักสูตรวิชาสุขศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น พุทธศักราช 2521 ที่เป็นปัญหาอยู่ในระดับมากที่เป็นรอยข้อ ได้แก่ ขาดอุปกรณ์การสอน เช่น โปสเตอร์ สไลด์ แผนภูมิ หุ่นจำลอง ฯลฯ หนังสืออ่านประกอบการเรียนมีไม่เพียงพอ โรงเรียนขาดงบประมาณในการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสุขภาพของนักเรียน การประเมินผลนักเรียนในด้านทัศนคติทำได้ยาก เนื้อหาในหนังสือเรียนบางเล่มมีมากเมื่อเทียบกับจำนวนคาบเรียนที่จัดให้สอน และหน่วยการเรียนของแต่ละรายวิชา จำนวน 0.5 หน่วยการเรียนซึ่งน้อยเกินไป 2. การเปรียบเทียบปัญหาการใช้หลักสูตรวิชาสุขศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น พุทธศักราช 2521 ตามการรับรู้ของครูสุขศึกษาที่มีพื้นฐานการศึกษาต่างกัน พบว่า ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ระหว่างครูสุขศึกษาที่มีพื้นฐานทางวิชาเอก/โทสุขศึกษา กับครูสุขศึกษาที่มีพื้นฐานทางวิชาเอก/โทพลศึกษา และครูสุขศึกษาที่มีพื้นฐานทางวิชาเอก/โทสุขศึกษา กับครูสุขศึกษาที่มีพื้นฐานทางวิชาเอก/โทอื่น ๆ แต่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ระหว่าง ครูสุขศึกษาที่มีพื้นฐานทางวิชาเอก/โทพลศึกษา กับครูสุขศึกษาที่มีพื้นฐานทางวิชาเอก/โทอื่น ๆ โดยครูสุขศึกษาที่มีพื้นฐานทางวิชาเอก/โทพลศึกษามีปัญหาการใช้หลักสูตรมากกว่าครูสุขศึกษาที่มีพื้นฐานทางวิชาเอก/โทอื่น ๆ
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
อินทกุล, อรชร, "ปัญหาการใช้หลักสูตรวิชาสุขศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น พุทธศักราช 2521 ตามการรับรู้ของครูสุขศึกษา เขตการศึกษา 8" (1988). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 45049.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/45049