Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
การเปรียบเทียบพฤติกรรมอนามัยของครอบครัวผู้ป่วยโรคเรื้อน กลุ่มอาการสงบและกลุ่มอาการไม่สงบ ศูนย์โรคเรื้อนเขต 12
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
A comparison of health behaviop between inactive and active groups of leprosy patient 's families, the center of leprosy control zone twelve
Year (A.D.)
1988
Document Type
Thesis
First Advisor
ประนอม โอทกานนท์
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
ครุศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
พยาบาลศึกษา
DOI
10.58837/CHULA.THE.1988.211
Abstract
การวิจัยครั้งนี้มีจุดหมายเพื่อศึกษาและเปรียบเทียบพฤติกรรมอนามัยด้านความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติตนเกี่ยวกับงานควบคุมโรคเรื้อนของครอบครัวผู้ป่วยโรคเรื้อนกลุ่มอาการสงบ และกลุ่มอาการไม่สงบ ผลการวิจัยพบว่า 1. ครอบครัวผู้ป่วยโรคเรื้อนกลุ่มอาการสงบมีพฤติกรรมอนามัยด้านความรู้เกี่ยวกับงานควบคุมโรคเรื้อนดีกว่าครอบครัวผู้ป่วยกลุ่มอาการไม่สงบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ใน 11 ข้อคือ (1) โรคเรื้อนเกิดจากเชื้อโรคขนาดเล็กมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น (2) โรคเรื้อนไม่ติดต่อโดยกินอาหารหรือน้ำร่วมกับผู้ป่วย (3) คนทุกคนมีโอกาสเป็นโรคเรื้อนได้ไม่เท่ากัน (4) โรคเรื้อนหากรีบรักษาแต่ต้นอย่างสม่ำเสมอจะหายและไม่พิการ (5) โรคเรื้อนใช้ระยะเวลารักษาต่างกันขึ้นกับอาการ (6) การเตือนให้ผู้ป่วยไปตรวจตามนัดแสดงว่าเห็นความสำคัญของการรักษา (7) ผู้อยู่ร่วมบ้านกับผู้ป่วยควรตรวจร่างกายอย่างน้อยปีละครั้ง (8) การตรวจร่างกายผู้สัมผัสร่วมบ้านช่วยให้ค้นพบผู้ป่วยได้ตั้งแต่ระยะแรก (9) การป้องกันโรคเรื้อนระยะทุติยภูมิวิธีง่ายที่สุด ซึ่งทำด้วยตนเองได้คือการตรวจสอบอาการทางผิวหนัง (10) หากไม่สามารถไปตรวจร่างกายได้ตามนัด การกระทำที่ถูกคือรีบไปตรวจในเวลาใกล้เคียงกัน (11) ความพิการในผู้ป่วยโรคเรื้อนสามารถป้องกันและแก้ไขได้ 2. ครอบครัวผู้ป่วยโรคเรื้อนกลุ่มอาการสงบมีพฤติกรรมอนามัยด้านทัศนคติเกี่ยวกับงานควบคุมโรคเรื้อนดีกว่าครอบครัวผู้ป่วยกลุ่มอาการไม่สงบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ใน 8 ข้อคือ (1) การที่ผู้ป่วยโรคเรื้อนเดินผ่านมาใกล้ ๆ ไม่ทำให้ท่านติดโรค (2) พร้อมที่จะแนะนำให้สมาชิกอื่นลดความรังเกียจผู้ป่วย (3) ผู้ป่วยโรคเรื้อนสามารถรักษาตัวอยู่ที่บ้านได้ (4) พร้อมที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบทันทีเมื่อผู้ป่วยมีอาการผิดปกติ (7) ยินดีแนะนำเพื่อนบ้านที่มีอาการน่าสงสัยให้ไปตรวจ (8) พร้อมจะตรวจอาการผิดปกติทางผิวหนังให้แก่สมาชิกในครอบครัว 3. ครอบครัวผู้ป่วยโรคเรื้อนกลุ่มอาการสงบพฤติกรรมอนามัยด้านการปฏิบัติตนเกี่ยวกับงานควบคุมโรคเรื้อนดีกว่าครอบครัวผู้ป่วยกลุ่มอาการไม่สงบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ทุกข้อยกเว้น 1 ข้อคือ (1) อ่านเอกสารความรู้เรื่องโรคเรื้อนที่เจ้าหน้าที่แจกให้
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
ยอดน้ำคำ, เพ็ญพักตร์, "การเปรียบเทียบพฤติกรรมอนามัยของครอบครัวผู้ป่วยโรคเรื้อน กลุ่มอาการสงบและกลุ่มอาการไม่สงบ ศูนย์โรคเรื้อนเขต 12" (1988). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 45018.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/45018