Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการจัดสรรเวลาของแรงงานเด็ก ในชุมชนแออัดของกรุงเทพมหานคร
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Factors affecting the allocation of child labour's time in urban Bangkok low income housing areas
Year (A.D.)
1988
Document Type
Thesis
First Advisor
สุมาลี ปิตยานนท์
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
เศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
เศรษฐศาสตร์
DOI
10.58837/CHULA.THE.1988.41
Abstract
วิทยานิพนธ์เรื่องนี้มีจุดมุ่งหมายสำคัญ 2 ประการคือ ประการแรกเพื่อวิเคราะห์การจัดสรรเวลาของแรงงานเด็กในชุมชนแออัดของกรุงเทพมหานคร ในการกระทำกิจกรรมที่ผ่านตลาดแรงงาน ซึ่งหมายถึง การทำงานในตลาดแรงงาน และกิจกรรมที่ไม่ผ่านตลาดแรงงาน ซึ่งหมายถึง การศึกษา การทำงานบ้าน และการพักผ่อน และประการหลัง เพื่อวิเคราะห์ถึงปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการจัดสรรเวลาของแรงงานเด็กดังกล่าวผลการวิจัยพบว่าแรงงานเด็กส่วนใหญ่จัดสรรเวลาเพื่อการทำงานในตลาดแรงงานไม่มากนักกล่าวคือแรงงานเด็กร้อยละ 85.4 ทำงานในตลาดแรงงานวันละ 8 ชั่วโมง มีเพียงส่วนน้อยคือร้อยละ 14.6 เท่านั้นซึ่งทำงานในตลาดแรงงานเกินวันละ 8 ชั่วโมง สำหรับการจัดสรรเวลาเพื่อทำงานบ้าน พบว่าส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณวันละ 2 ชั่วโมง และมีชั่วโมงพักผ่อนวันละประมาณ 15-16 ชั่วโมง ซึ่งนับว่าพอเพียงต่อความต้องการของร่างกาย ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าการจัดสรรเวลาเพื่อการทำงานทั้งงานนอกบ้านและงานในบ้าน รวมทั้งการจัดสรรเวลาเพื่อพักผ่อนของแรงงานเด็ก ส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทางด้านร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ของแรงงานเด็กไม่มากนัก เนื่องจากแรงงานเด็กมีเวลาพักผ่อนเพียงพอ แต่อย่างไรก็ตามการศึกษาครั้งนี้พบว่าแรงงานเด็กเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่ได้จัดสรรเวลาเพื่อการศึกษา เพื่อพัฒนาสติปัญญาและทักษะในการทำงาน แม้ว่าจะอยู่ในวัยที่ควรได้รับการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาในสายสามัญหรือสายอาชีพ ทั้งในระบบและนอกระบบโรงเรียน ซึ่งในระยะยาวอาจมีผลกระทบต่อสังคมในแง่คุณภาพและผลิตภาพสยองแรงงาน สำหรับการศึกษาปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการจัดสรรเวลาของแรงงานเด็ก พบว่าถ้ารายได้ของครัวเรือน (ยกเว้นรายได้ของแรงงานเด็ก) เพิ่มขึ้น แรงงานเด็กจะมีชั่วโมงทำงานในตลาดแรงงานน้อยลง และแรงงานเด็กซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียนจะมีชั่วโมงทำงานน้อยกว่า เนื่องจากการทำงานอาจถือได้ว่าเป็นกิจกรรมรองและถ้าอัตราค่าจ้างของแรงงานเด็กสูงขึ้น จะเป็นปัจจัยจูงใจให้ครอบครัวส่งเด็กเข้าทำงานในตลาดแรงงานมากขึ้น ส่วนอายุของแรงงานเด็กนั้นถ้าแรงงานเด็กมีอายุมากขึ้น ชั่วโมงทำงานจะเพิ่มสูงขึ้นซึ่งสอดคล้องกับความจริงที่ว่า ถ้าเด็กมีอายุน้อยย่อมมีข้อจำกัดทางร่างกายในการทำงาน สำหรับประเภทของงานนั้น หากแรงงานเด็กทำงานอาชีพอิสระจำนวนชั่วโมงทำงานจะน้อยกว่าแรงงานเด็กซึ่งทำงานในสถานประกอบการภายใต้ความคุ้มครองของกฎหมาย เนื่องจากงานอาชีพอิสระที่เด็กทำมักอยู่ในรูปของการช่วยกิจการของพ่อแม่ ส่วนประเภทของชุมชนแออัดนั้นพบว่าแรงงานเด็กซึ่งอาศัยอยู่ในชุมชนแออัดที่ได้รับการปรับปรุงแล้วจะมีชั่วโมงทำงานน้อยลงเนื่องจากเป็นชุมชั้นที่องค์กรของรัฐและเอกชนได้ยื่นมือเข้าไปให้ความช่วยเหลือในรูปแบบต่าง ๆ กัน ทำให้สภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวดีขึ้น ผลที่ได้จากการศึกษาทั้งหมดในครั้งนี้ สามารถนำไปสู่ข้อเสนอแนะทางด้านนโยบายในการแก้ปัญหาแรงงานเด็กในประเทศไทยต่อไป
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
อนันทวรรณ, เพชรรัตน์, "ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการจัดสรรเวลาของแรงงานเด็ก ในชุมชนแออัดของกรุงเทพมหานคร" (1988). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 44194.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/44194