Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยคัดสรร กับความผูกพันระหว่างมารดาและทารกในครรภ์ของหญิงตั้งครรภ์ ภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Relationships between selected factors and maternal-fetal attachment of pregnant women in the upper northern region of Thailand

Year (A.D.)

1990

Document Type

Thesis

First Advisor

พวงรัตน์ บุญญานุรักษ์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

การบริหารการพยาบาล

DOI

10.58837/CHULA.THE.1990.83

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความผูกพันระหว่างมารดาและทารกในครรภ์ของหญิงมีครรภ์และเปรียบเทียบความผูกพันระหว่างมารดาและทารกในครรภ์ของหญิงตั้งครรภ์ที่มีสถานภาพส่วนบุคคลที่แตกต่างกันและศึกษาตัวทำนายความผูกพันระหว่างมารดาและทารกในครรภ์ของหญิงตั้งครรภ์ที่อยู่ในภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย ตัวอย่างประชากรคือหญิงครรภแรก ครรภ์ปกติ อายุครรภ์ระหว่าง 28-40 สัปดาห์และมาฝากครรภ์ที่หน่วยฝากครรภ์ในโรงพยาบาลของรัฐ สังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่อยู่ในภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย จำนวน 204 คน เลือกโดยวิธีสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอนรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสัมภาษณ์ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. ความผูกพันระหว่างมารดาและทารกในครรภ์ของหญิงตั้งครรภ์อยู่ในระดับมาก 2. หญิงตั้งครรภ์ที่มีความแตกต่างกันในเรื่องระดับการศึกษา อาชีพ รายได้ของครอบครัวและการวางแผนการตั้งครรภ์มีความผูกพันระหว่างมารดาและทารกในครรภ์แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ส่วนอายุ สถานภาพสมรสและลักษณะของครอบครัวของหญิงตั้งครรภ์ที่แตกต่างกันมีความผูกพันระหว่างมารดาและทารกในครรภ์ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 3. ระดับการศึกษา รายได้ของครอบครัว การวางแผนการตั้งครรภ์ อัตมโนทัศน์สัมพันธภาพของคู่สมรสและการสนับสนุนทางสังคม มีความสัมพันธ์ทางบวกกับความผูกพันระหว่างมารดาและทารกในครรภ์ของหญิงตั้งครรภ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ส่วนอายุและลักษณะของครอบครัวไม่มีความสัมพันธ์กับความผูกพันระหว่างมารดาและทารกในครรภ์ของหญิงตั้งครรภ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 4. การสนับสนุนทางสังคมและสัมพันธภาพของคู่สมรส สามารถร่วมกันทำนายความผูกพันระหว่างมารดาและทารกในครรภ์ของหญิงตั้งครรภ์ได้ ร้อยละ 48.77 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

Share

COinS