Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาแนวโน้มการประสานสัมพันธ์ในการจัดการศึกษานอกระบบโรงเรียน ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ และกรมการศึกษานอกโรงเรียน กระทรวงศึกษาธิการ

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Study of trends of linkage in the management of non-formal education between the office of the national primary education commission and the department of non-formal education, the ministry of education

Year (A.D.)

1989

Document Type

Thesis

First Advisor

อุ่นตา นพคุณ

Second Advisor

ทวีวัฒน์ ปิตยานนท์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

การศึกษานอกระบบโรงเรียน

DOI

10.58837/CHULA.THE.1989.83

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาแนวโน้มของการประสานสัมพันธ์ในการจัดการศึกษานอกระบบโรงเรียน ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติและกรมการศึกษานอกโรงเรียนในช่วงปี พ.ศ. 2535-2539 โดยใช้เทคนิคเดลฟายถามความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญจำนวน 25 คน ผลการวิจัยสรุปได้คือ ผู้เชี่ยวชาญมีความคิดเห็นสอดคล้องกันในเรื่องต่อไปนี้ว่า 1.แนวโน้มของปรัชญาหรือนโยบายของการประสานสัมพันธ์ในการจัดการศึกษานอกระบบโรงเรียน พบว่าทั้งสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติและกรมการศึกษานอกโรงเรียนจะยึดหลักปรัชญาการศึกษาตลอดชีวิตโดยเน้นที่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนเป็นหลัก รวมทั้งจะมีการกำหนดเป้าหมายนโยบายและแนวทางปฏิบัติงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด 2.แนวโน้มเนื้อหาสาระและกิจกรรมที่ทำร่วมกันของการประสานสัมพันธ์ในการจัดการศึกษานอกระบบโรงเรียนพบว่า จะมีการจัดกิจกรรมที่ทำให้ประชาชนมีความรู้พื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตสร้างเสริมนิสัยคุณธรรม ความมีวินัย ความซื่อสัตย์ และกิจกรรมนั้นจะเป็นการศึกษากิจกรรมจากชุมชนซึ่งจะทำให้ตอบสนองความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริง 3.แนวโน้มยุทธวิธีของการประสานสัมพันธ์ในการจัดการศึกษานอกระบบโรงเรียนพบว่า จะมีการกำหนดนโยบายร่วมตั้งแต่ระดับกรมลงถึงระดับจังหวัดและระดับผู้ปฏิบัติงานในท้องที่ ผู้บริหารระดับสูงจะต้องมีความจริงใจในการดำเนินงานร่วมกัน มีการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมกันเพื่อให้เกิดการประสานสัมพันธ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งจะนำทรัพยากรที่มีอยู่ทั้งหมดของทั้งสองหน่วยงานมาใช้ให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน 4.แนวโน้มขอบข่ายของการประสานสัมพันธ์ในการจัดการศึกษานอกระบบโรงเรียนพบว่า จะมีการกำหนดหน้าที่และบทบาทให้ชัดเจนว่าอะไรคือกิจกรรมหลักของแต่ละกรมหรือกิจกรรมรองของแต่ละกรมเพื่อให้การดำเนินงานมีความคล่องตัว และมีองค์กรที่เป็นตัวเชื่อมประสานในระดับนโยบายและปฏิบัติการ เพื่อให้การดำเนินงานของทั้งสองหน่วยงานประสานเชื่อมโยงเป็นรูปงานเดียวกัน 5.แนวโน้มของการบริหารงานการประสานสัมพันธ์ในการจัดการศึกษานอกระบบโรงเรียนพบว่าทั้งสองหน่วยงานจะมีการเจรจาวางแผนในการปฏิบัติงาน ระบุปัญหาและอุปสรรคต่างๆ อย่างเปิดเผยและจริงใจ จัดตั้งคณะทำงานประกอบด้วยบุคลากรจากสองหน่วยงานภายใต้การวางแผนการดำเนินงานร่วมกันโดยทำหน้าที่กำกับติดตามและนิเทศการดำเนินงาน กำหนดภารกิจที่ต้องปฏิบัติงานร่วมกันและจะใช้งบประมาณมาเป็นตัวประสานควบคุมการปฏิบัติงานประสานสัมพันธ์ไปด้วย

Share

COinS