Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ผลของสารต้นตอคาร์บอนและไนโตรเจน ต่อการผลิตโปรตีเอสและเอนไซม์ในไนโตรเจน เมแทบอลิซึม ของ บาซิลลัส สับติติส TISTR 25

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Effect of carbon and nitrogen sources on protease production and some nitrogen metabolic enzymes in Bacillus Subtilis TISTR 25

Year (A.D.)

1990

Document Type

Thesis

First Advisor

พีรดา มงคลกุล

Second Advisor

เปี่ยมสุข พงษ์สวัสดิ์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

ชีวเคมี

DOI

10.58837/CHULA.THE.1990.587

Abstract

ในการเลี้ยง Bacillus subtilis TISTR 25 ในอาหารสูตรปรับต่ำ pH 6.0 อุณหภูมิ 30°ซ และเสริมด้วยสารต้นตอไนโตรเจน พบว่า กลูตาเมท แอสปาราจีน อาร์จินีนโพรลีน และ เคซีนไฮโดรไลเสท มีผลให้การเจริญและแอคติวิติจำเพาะของเอนไซม์โปรตีเอสสูงกว่าในกลุ่มอื่น ๆ ที่ศึกษา ส่วนสารต้นตอคาร์บอนเช่น ซิเตรทและซัคซิเนท พบว่ามีบทบาทหรือ ความสำคัญต่อการผลิตโปรตีเอสน้อยกว่ากลุ่มของสารต้นตอไนโตรเจน และพบว่าสารต้นตอคาร์บอนเหล่านี้ รวมทั้งกลูโคส เมื่อเสริมในน้ำเลี้ยงร่วมกับกลูตาเมท ยังมีผลไปลดการผลิตโปรตีเอสโดยขบวนการแคแทบอไลท์รีเพรสชันอีกด้วย นอกจากนี้ยังพบว่า กรดอะมิโนที่มีความเข้มข้นสูงพอเหมาะ เช่น เคซีนไฮโดรไลเสทที่ระดับความเข้มข้นสูงกว่า 0.5 เปอร์เซนต์ และกลูตาเมทที่ความเข้มข้นสูงกว่า 100 มิลลิโมลาร์ ก็สามารถลดการผลิตโปรตีเอสได้ ในการศึกษาผลของกรดอะมิโนผสมและกรดอะมิโนเดี่ยว ต่อการผลิตโปรตีนเอสพบว่า กรดอะมิโนผสมสามารถสนับสนุนการเจริญ และค่าแอคติวิตีของโปรตีเอสได้สูงกว่ากรดอะมิโนเดี่ยวอย่างชัดเจน เมื่อศึกษาผลของกรดอะมิโนเดี่ยวแต่ละชนิดพบว่า ในกรณีที่ใช้ กลูตาเมทแอสปาราจีน โพรลีน หรือเคซีนไฮโดรไลเสท จะมีผลให้เชื้อผลิตโปรตีเอสในปริมาณเท่า ๆ กัน และยังเป็นผลให้อัตราส่วนของ ซีรีนต่อเมตัลโปรตีเอสที่ผลิตได้มีค่าใกล้เคียงกันอีกด้วย การศึกษาโดยใช้สารยับยั้ง rifampin และการเปรียบเทียบผลจากการเติมกลูโคสที่ช่วงการเจริญต่างกัน ทำให้สันนิษฐานได้ว่า การควบคุมการผลิตโปรตีเอส ของ Bacillus subtilis TISTR 25 น่าจะเกิดขึ้นที่ระดับการถอดรหัสของจีนส์ที่เกี่ยวข้อง เนื่องมาจากสารต้นตอไนโตรเจน มีอิทธิพลต่อการผลิตโปรตีเอสมากกว่าสารต้นตอคาร์บอน จึงได้ศึกษาถึงความสัมพันธ์ของการผลิตโปรตีเอส กับเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องในวิถีไนโตรเจน พบว่าวิถีที่เร่งโดย GS-GOGAT มีความสำคัญในการนำสารต้นตอไนโตรเจน เข้าสู่ขบวนการเมแทบอสิซึม มากกว่าวิถีที่เร่งโดย GDH และการผลิตโปรตีเอสมีความสัมพันธ์แบบผกผันกับแอคติวิติของเอนไซม์ GS และ GOGAT

Share

COinS