Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมพัฒนาฐานอำนาจโดยตำแหน่ง ฐานอำนาจส่วนบุคคล การรับรู้ต่อความยึดมั่นต่อกันภายในกลุ่มวิชาชีพ กับการรับรู้สัมพันธภาพในการร่วมกันทำงานของหัวหน้าหอผู้ป่วย โรงพยาบาลศูนย์ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Relationship between position power base developmental behavior, personal power base developmental behavior, perception of professional group cohesion, and perception of collaborative relationship of head nurses, regional hospital and medical centers under the jurisdiction of the ministry of public health

Year (A.D.)

1991

Document Type

Thesis

First Advisor

พวงรัตน์ บุญญานุรักษ์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

การบริหารการพยาบาล

DOI

10.58837/CHULA.THE.1991.103

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการรับรู้สัมพันธภาพในการร่วมกันทำงานของหัวหน้าหอผู้ป่วย และตัวแปรที่มีความสัมพันธ์และสามารถร่วมกันพยากรณ์การรับรู้สัมพันธภาพในการร่วมกันทำงาน ได้แก่ พฤติกรรมพัฒนาฐานอำนาจโดยตำแหน่ง พฤติกรรมพัฒนาฐานอำนาจส่วนบุคคล การรับรู้ต่อความยึดมั่นต่อกันภายในกลุ่มวิชาชีพ ระดับการศึกษา ประสบการณ์ในวิชาชีพ ประสบการณ์ในตำแหน่ง และการอบรมด้านการบริหาร ประชากรที่ศึกษาเป็นหัวหน้าหอผู้ป่วยจำนวน 194 คน โรงพยาบาลศูนย์ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข เครื่องมือวัดการรับรู้สัมพันธภาพในการร่วมกันทำงาน การรับรู้ต่อความยึดมั่นต่อกันภายในกลุ่มวิชาชีพ พฤติกรรมพัฒนาฐานอำนาจโดยตำแหน่ง และพฤติกรรมพัฒนาฐานอำนาจส่วนบุคคล เป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นแล้วให้ผู้ทรงคุณวุฒิตรวจความตรงตามเนื้อหาก่อนนำไปทดลองใช้ ค่าความเที่ยงของเครื่องมือคือ .92, .81, .87 และ .94 ตามลำดับ ผลการวิจัยพบว่า 1. การรับรู้สัมพันธภาพในการร่วมกันทำงานของหัวหน้าหอผู้ป่วยทั้งกับแพทย์ และกับบุคลากรอื่น ๆ ในทีมสุขภาพอยู่ในระดับดี 2. พฤติกรรมพัฒนาฐานอำนาจโดยตำแหน่ง พฤติกรรมพัฒนาฐานอำนาจส่วนบุคคล และการรับรู้ต่อความยึดมั่นต่อกันภายในกลุ่มวิชาชีพ มีความสัมพันธ์ทางบวกกับการรับรู้สัมพันธภาพในการร่วมกันทำงานทั้งกับแพทย์ และกับบุคลากรอื่น ๆ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3. กลุ่มตัวแปรพยากรณ์ที่สามารถร่วมกันพยากรณ์การรับรู้สัมพันธภาพในการ่วมกันทำงานกับแพทย์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 คือ การรับรู้ต่อความยึดมั่นต่อกันภายในกลุ่มวิชาชีพ กับพฤติกรรมพัฒนาฐานอำนาจโดยตำแหน่ง สามารถร่วมกันอธิบายการรับรู้สัมพันธภาพในการร่วมกันทำงานกับแพทย์ได้ร้อยละ 24.98 (R2 = .2498) 4. กลุ่มตัวแปรพยากรณ์ที่สามารถร่วมกันพยากรณ์การรับรู้สัมพันธภาพในการร่วมกันทำงานกับบุคลากรอื่น ๆ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 คือ การรับรู้ต่อความยึดมั่นต่อกันภายในกลุ่มวิชาชีพ กับพฤติกรรมพัฒนาฐานอำนาจโดยตำแหน่ง สามารถร่วมกันอธิบายการรับรู้สัมพันธภาพในการร่วมกันทำงานกับบุคลากรอื่น ๆ ได้ร้อยละ 24.02 (R2 =.2402)

Share

COinS