Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การถนอมรักษารอยัลเยลลีโดยการแช่แข็งและการทำแห้งเยือกแข็ง

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Preservtion of royal jelly by freezing and freeze drying

Year (A.D.)

1991

Document Type

Thesis

First Advisor

รมณี สงวนดีกุล

Second Advisor

สิริวัฒน์ วงษ์ศิริ

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

เทคโนโลยีทางอาหาร

DOI

10.58837/CHULA.THE.1991.591

Abstract

งานวิจัยนี้ได้ศึกษาถึงองค์ประกอบทางเคมีของรอยัลเยลลีแช่แข็งและรอยัลเยลลีแห้งจาการทำแห้งเยือกแข็งและศึกษาประสิทธิภาพของรอยัลเยลลีแช่แข็งและรอยัลเยลลีแห้งในการยับยั้งการเจริญของแบคทีเรีย 5 ชนิด คือ Bacillus subtilis TISTR 8, Staphylococcus aureus TISTR 118, Escherichia coli TISTR 371, Lactobacillus bulgaricus TISTR 451 และ Lactobacillus plantarum TISTR 541 ซึ่งประเมินผลโดยค่าปริมาณความเข้มข้นต่ำสุดของรอยัลเยลลีที่สามารถยับยั้งการเจริญของแบคทีเรียได้ (MIC) พบว่าทั้งรอยัลเยลลีแช่แข็งและรอยัลเยลลีแห้งมีผลสอดคล้องกันโดยไม่สามารถยับยั้งการเจริญของ L. bulgaricus และ L. plantarum แต่สามารถยับยั้งการเจริญ B. subtilis, S. aureus และ E. coli ได้ และค่า MIC ต่อแบคทีเรียแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ (P  0.05) และเมื่อเทียบน้ำหนักของรอยัลเยลลีแช่แข็งและรอยัลเยลลีแห้งให้เท่ากันโดยใช้น้ำหนักแห้งแล้วรอยัลเยลลีแช่แข็งมีประสิทธิภาพในการยับยั้งการเจริญของแบคทีเรียดีกว่ารอยัลเยลลีแห้ง จากนั้นศึกษาผลการใช้สารเพิ่มปริมาณต่อการทำแห้งรอยัลเยลลี โดยใช้สารเพิ่มปริมาณ 3 ชนิด คือ แลคโตส แป้งมันสำปะหลัง และแลคโตส ผสมแป้งมันสำปะหลังในอัตรา 1:1 โดยน้ำหนัก และเติมในปริมาณ 10, 20 และ 30% ประเมินผลโดยวิเคราะห์ปริมาณการดูดน้ำกลับของรอยัลเยลลีที่เติมสารเพิ่มปริมาณและผ่านการทำแห้งเยือกแข็งแล้ว พบว่า เมื่อใช้แลคโตสเป็นสารเพิ่มปริมาณจะมีการดูดน้ำกลับต่ำที่สุด ในขณะที่แลคโตสผสมแป้งมันสำปะหลัง และแป้งมันสำปะหลังจะมีการดูดน้ำกลับเพิ่มขึ้นตามลำดับ และเมื่อใช้สารเพิ่มปริมาณเพิ่มขึ้นจะทำให้การดูดน้ำกลับของรอยัลเยลลีลดลง จากการศึกษาการเปลี่ยนแปลงคุณภาพของรอยัลเยลลีแช่แข็งที่เก็บที่อุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียส ในถุง HDPE เป็นเวลา 5 เดือน ซึ่งประเมินผลโดยติดตามการเปลี่ยนแปลงปริมาณความชื้น โปรตีน 10-hydroxy-2decenoic acid และค่า MIC ของรอยัลเยลลีต่อ B. subtilis พบว่าคุณภาพของรอยัลเยลลีแช่แข็งไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ (P  0.05) ส่วนการเก็บรอยัลเยลลีแห้งไว้ในภาชนะบรรจุ 2 ชนิด คือ PE/Al และ HDPE ที่อุณหภูมิ -18, 5 และ 28 องศาเซลเซียส นาน 5 เดือน พบว่า ภาชนะบรรจุ อุณหภูมิที่เก็บ ระยะเวลาเก็บและอิทธิพลร่วมของทุกปัจจัยต่างมีผลต่อคุณภาพของรอยัลเยลลีแห้งโดยรอยัลเยลลีแห้งที่บรรจุในถึง PE/Al จะมีความชื้นและค่า MIC ต่อ B. subtilis, ต่ำกว่าเมื่อเก็บในถุง HDPE ส่วนปริมาณโปรตีนและ 10-hydrocy-2-decenoic acid จะมีค่าสูงกว่า และรอยัลเยลลีแห้งที่เก็บที่อุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียส จะมีความชื้นและค่า MIC ต่อ B. subtilis ต่ำกว่า เมื่อเก็บที่อุณหภูมิ 5 และ 28 องศาเซลเซียส ส่วนปริมาณโปรตีนและ 10-hydrocy-2-decenoic acid จะมีค่าสูงกว่าเมื่อเก็บรอยัลเยลลีแห้งไว้นาน 5 เดือน

Share

COinS