Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การพัฒนารูปแบบการสร้างจิตสำนึกในการพัฒนาชุมชนชนบท

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

The development of conscientization for rural community development model

Year (A.D.)

1990

Document Type

Thesis

First Advisor

ทิศนา แขมมณี

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาเอก

Degree Discipline

หลักสูตรและการสอน

DOI

10.58837/CHULA.THE.1990.53

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนารูปแบบการสร้างจิตสำนึกในการพัฒนาชุมชนชนบทมีสมมุติฐานคือ หลังการทดลองใช้รูปแบบ คนในชุมชนจะมีจิตสำนึกในการพัฒนาชุมชนเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม โดยมีการดำเนินการวิจัยแบ่งเป็น 4 ขั้นตอนคือ (1) การศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการพัฒนาชุมชนและการสร้างจิตสำนักเพื่อนำมาพัฒนารูปแบบ (2) การยกร่างรูปแบบและการปรับปรุงรูปแบบก่อนการทดลองใช้ (3) การทดลองใช้รูปแบบในสถานการณ์จริงของชุมชนอีสาน 1 ชุมชน (4) การประเมินผลเพื่อปรับปรุงรูปแบบหลังการทดลองใช้ สาระสำคัญของรูปแบบ รูปแบบนี้สร้างขึ้นโดยมีจุดหมายเพื่อให้ผู้นำชุมชนนำไปใช้ในการพัฒนาคนในชุมชนชนบทให้มีจิตสำนึกในการพัฒนาชุมชนที่ตนอาศัยอยู่เพิ่มมากขึ้นและมีแนวความคิดที่เป็นหลักการในการสร้างรูปแบบคือการทำกิจกรรมพัฒนาที่จะส่งผลต่อการพัฒนาจิตสำนึกของคนในชุมชน จะต้องเป็นกิจกรรมที่สอดคล้องกับสภาพปัญหา ความต้องการและวิถีชีวิตของชุมชน คนในชุมชนมีบทบาทเป็นเจ้าของและส่วนร่วมในกิจกรรมอย่างเต็มที่ การใช้รูปแบบ มี 3 ขั้นตอน คือ (1) ผู้นำชุมชนได้รับการกระตุ้นให้เห็นความจำเป็นและความสำคัญของการสร้างจิตสำนึก (2) ผู้นำชุมชนศึกษาความรู้และกระบวนการสร้างจิตสำนึก (3) ผู้นำชุมชนและตัวแทนชุมชนดำเนินกิจกรรมสร้างจิตสำนึกร่วมกับตัวแทนชาวบ้านใช้เวลาในการดำเนินกิจกรรมทั้งสิ้นประมาณ 80 ชั่วโมงใน 16 สัปดาห์ต่อเนื่องกัน ผลการวิจัย หลังการทดลองใช้รูปแบบพบว่า คนในชุมชนมีจิตสำนึกในการพัฒนาชุมชนมากขึ้น แสดงออกโดยมีความรู้ เจตคติและพฤติกรรมสอดคล้องกับหลักการและกระบวนการพัฒนาชุมชนมากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามสมมุติฐานของการวิจัยและการใช้รูปแบบมีความเหมาะสมอยู่ในระดับดี ผู้ใช้มีความพึงพอใจต่อรูปแบบในระดับมากที่สุด ซึ่งผ่านมซึ่งผ่านเกณฑ์การประเมินที่ตั้งไว้ ถือว่ารูปแบบดังกล่าวมีประสิทธิภาพ จากการวิจัยพบว่า กระบวนการของรูปแบบมีส่วนทำให้กลุ่มเป้าหมายมีความกล้าคิดและคิดเป็น และได้ขอค้นพบความจริงเกี่ยวกับการพัฒนาชุมชนว่า ชาวบ้านสนใจและต้องการกิจกรรมพัฒนาที่สามารถเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว และพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น โดยที่กิจกรรมนั้นจะต้องไม่หลายวิถีชีวิตของชุมชน

Share

COinS