Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ลักษณะเชิงกลสัทศาสตร์ของวรรณยุกต์ในภาษาไทยกรุงเทพฯ : การแปรตามกลุ่มอายุ

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Acoustic characteristics of tones in Bangkok Thai : variation by age groups

Year (A.D.)

1991

Document Type

Thesis

First Advisor

สุดาพร ลักษณียนาวิน

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

อักษรศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

ภาษาศาสตร์

DOI

10.58837/CHULA.THE.1991.847

Abstract

วิทยานิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาลักษณะเชิงกลสัทศาสตร์ของวรรณยุกต์ในภาษาไทยกรุงเทพฯ ที่พูดโดยผู้ออกภาษา 3 กลุ่ม อายุ คือ 50-60 ปี (อายุเฉลี่ย 54 ปี) 30-40 ปี (อายุเฉลี่ย 35 ปี) และ 10-20 ปีอายุเฉลี่ย (16.5ปี) ว่ามีการแปรตามกลุ่มอายุหรือไม่ และถ้ามีลักษณะการแปรจะเป็นอย่างไร ลักษณะเชิงกลสัทศาสตร์ที่ศึกษาในงานวิจัยนี้ได้แก่ ค่าความถี่มูลฐานเฉลี่ย พิสัยของค่าความถี่มูลฐานลักษณะการเปลี่ยนแปลงค่าความถี่มูลฐาน และค่าระยะเวลาของค่าความถี่มูลฐานของวรรณยุกต์ทั้ง 5 หน่วยเสียงในคำพูดเดียว คำทดสอบที่ใช้ เป็นคำพยางค์เดียวปรากฏในโครงสร้างพยางค์ทั้ง 8 แบบ ที่มีในภาษาไทยจำนวน 31 คำ มีพยัญชนะต้นเป็นพยางค์กักไม่ก้องทิ้งพ่อลมและไม่พ่อลม สระกลางต่ำ ใช้ผู้บอกภาษา 30 คน ที่อยู่ในชุมชนภาษาเดียวกัน รวมตัวอย่างคำที่ได้ 930 คำ 310 คำจากผู้บอกภาษาแต่ละกลุ่มวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเครื่องวิเคราะห์คลื่นเสียง (sound spectrograph ) การศึกษาการแปรของลักษณะเชิงกลสัทศาสตร์ ของวรรณยุกต์ในงานวิจัยนี้วิเคราะห์แนวโน้มของการแปรปรวน (trend analysis)ด้วยโปรแกรม GANOVA โดยกำหนดค่าความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติไว้ที่ .50 ผลการวิเคราะห์ปรากฏว่า 1. ลักษณะเชิงกลสัทศาสตร์ของวรรณยุกต์ในกลุ่มอายุ 50-60 ปีและกลุ่มอายุ 30-40 ปี ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยยะสำคัญทางสถิติ ยกเว้นในวรรณยุกต์โทในพยางค์ตายสระยาว ที่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 2. ค่าความถี่มูลฐานเฉลี่ยของวรรณยุกต์ทาง 5 หน่วยเสียง ระหว่างกลุ่มผู้ใหญ่อายุ (50-60 ปี และ 30-40 ปี) กับกลุ่มเด็กอายุ 10-20 ปี มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ 3. พิสัยของค่าความถี่มูลฐานในวรรณยุกต์ตรี และวรรณยุกต์โทของกลุ่มอายุ 50-60 ปี และกลุ่มอายุ 30-40 ปี แตกต่างจากของกลุ่มอายุ 10-20 ปี อย่างมีนัยสำคัญ 4. ลักษณะของการเปลี่ยนแปลงค่าความถี่มูลฐานในวรรณยุกต์ตรีและวรรณยุกต์โท ของกลุ่มอายุ 50-60 ปี และ 30-40 ปี แตกต่างจากกลุ่มอายุ 10-20 ปี อย่างมีนัยสำคัญ 5. คำระยะเวลาในวรรณยุกต์สามัญ วรรณยุกต์ตรีและวรรณยุกต์โท ของกลุ่มอายุ 50-60 ปี และ 30-40 ปี แตกต่างจากกลุ่มอายุ 10-20 ปี อย่างมีนัยสำคัญ 6. พิสัยของค่าความถี่มูลฐานและลักษณะของการเปลี่ยนแปลงค่าความถี่มูลฐานในวรรณยุกต์เอกวรรณยุกต์สามัญ และวรรณยุกต์จัตวา ไม่มีการแปรอย่างมีนัยสำคัญในระหว่างผู้พูดทั้ง 3 กลุ่มอายุ

Share

COinS