Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
การศึกษาการซ้อนคำในภาษาไทย
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
A study of lexical reduplication in Thai
Year (A.D.)
1991
Document Type
Thesis
First Advisor
กาญจนา นาคสกุล
Second Advisor
นววรรณ พันธุเมธา
Third Advisor
ปราณี กุลละวณิชย์
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
อักษรศาสตรดุษฎีบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาเอก
Degree Discipline
ภาษาไทย
DOI
10.58837/CHULA.THE.1991.808
Abstract
วิทยานิพนธ์เล่มนี้มุ่งศึกษาการซ้อนคำในภาษาไทยตั้งแต่สมัยสุโขทัยถึงสมัยรัชกาลที่ ๗ (เวลาประมาณก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครองวันที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๗๕) เพื่อศึกษาลักษณะการซ้อนคำที่มาและวัตถุประสงค์ของการซ้อนคำ การซ้อนคำในภาษาไทยเป็นวิธีการหนึ่งในการสร้างคำขึ้นใช้ในภาษาไทยซึ่งเกิดจากการซ้อนคำหรือกลุ่มคำตั้ง แต่ ๒ ถึง ๔ หน่วย ซึ่งมีความหมายเหมือนกัน คล้ายคลึงกันหรือตรงข้ามกัน ผู้วิจัยได้ศึกษาการซ้อนคำที่เกิดจากความหมายทั้ง ๓ ประเภท ในด้านลักษณะหน้าที่และที่มาของคำที่นำมาซ้อนกัน นอกจากนั้นยังได้ศึกษาการพัฒนาการซ้อนคำตั้งแต่สมัยดั้งเดิม ผลการศึกษาแสดงว่าคำหรือกลุ่มคำซึ่งนำมาซ้อนกันนั้นมีสาเหตุมาจากความหมายซึ่งเหมือนกัน คล้ายคลึงกันหรือตรงข้ามกัน โดยไม่คำนึงว่าลักษณะของคำจำนวนพยางค์ ที่มาของคำที่นำมาซ้อนกัน ระดับของคำ ฯลฯ แตกต่างกันหรือไม่ การซ้อนคำดังกล่างในบางกรณีทำให้เกิดคำซ้อน ซึ่งจะมีความหมาย ๓ ประเภท คือความหมายเป็นความหมายเดียว ความหมายเพิ่มจากความหมายเดิมของหน่วยแต่ละหน่วย และความหมายเป็นความหมายรวม ผลการสำรวจทัศนคติของคนไทย ๘๐ คน ต่อการซ้อนคำ ปรากฏว่าร้อยละ ๗๒.๕ เห็นว่าบทความภาษาไทยที่มีการซ้อนคำไพเราะสละสลวยกว่าบทความที่ไม่มีการซ้อนคำ ข้อสังเกตประการหนึ่งที่พบก็คือ การซ้อนคำซึ่งแต่เดิมเป็นการซ้อนคำหรือกลุ่มคำธรรมดาได้พัฒนาเป็นการซ้อนสลับและการซ้อนซ้ำ
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
ธันวารชร, ราตรี, "การศึกษาการซ้อนคำในภาษาไทย" (1991). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 39359.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/39359