Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
การศึกษาเปรียบเทียบการกระจายของความเค้นจากการกดฟันหน้าล่าง ด้วยเบอร์สโตน อินทรูซีฟ อาร์ช และริกเก็ตส์ ยูทิลิตี อาร์ช โดยวิธีโฟโตอีลาสติก
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
A comparative study of stress distribution due to mandibular incisor intrusion between burstone intrusive arch and ricketts utility arch by photoelastic technique
Year (A.D.)
1992
Document Type
Thesis
First Advisor
สมรตรี วิถีพร
Second Advisor
วิทยา ยงเจริญ
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
ทันตกรรมจัดฟัน
DOI
10.58837/CHULA.THE.1992.582
Abstract
วัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อศึกษาการกระจายของความเค้นซึ่งเกิดจากการกดฟันหน้าล่างด้วยกลไก 2 ประเภท : เบอร์สโตน อินทรูชีฟ อาร์ช และ ริกเก็ตส์ ยูทิลิตี อาร์ช และเปรียบเทียบความแตกต่างของรูปแบบความเค้นซึ่งเกิดจากกลไกทั้งสอง การทดลองกระทำในแบบจำลองฟันซึ่งจำลองลักษณะการเรียงตัวของฟันในขากรรไกรล่างที่มีลักษณะเคิร์ฟ ออฟ สปี ชัน พันหน้าทั้งสี่ซี่ถูกกดด้วย 0.018" x 0.022" เบอร์สโตน อินทรูชีฟ อาร์ช และ 0.016" x 0.016" ริกเก็ตส์ ยูทิลิตี อาร์ช การกระจายของความเค้นที่เกิดขึ้นในแบบจำลองดังกล่าวข้างต้น ศึกษาโดยวิธีโฟโตอีลาสติก ผลการวิจัยสรุปดังต่อไปนี้ 1 การกระจายของความเค้นซึ่งเกิดจากลวดกดฟันหน้าแต่ละชนิดตามขนาดของแรงที่แนะนำให้ใช้ ( 50 กรัม สำหรับเบอร์สโตน อินทรูชีฟ อาร์ช และ 75 กรัม สำหรับริกเก็ตส์ ยูทิลิตี อาร์ช ) ปรากฏดังนี้ 1.1 เบอร์สโตน อินทรูชีฟ อาร์ช ทำให้เกิดความเค้นรอบปลายรากฟันหน้าทุกซี่ ความเค้นกระจายจากปลายรากฟันขึ้นไปสู่บริเวณคอฟันเป็นระยะทางประมาณ 1/3 – 2/3 ของความยาวรากฟัน ในบริเวณฟันหลัง ความเค้นกระจายสู่บริเวณปลายรากของฟันหลังทุกซี่ และพื้นที่ระหว่างรากฟัน ความแปรปรวนของการกระจายของความเค้นบริเวณฟันหลังด้านซ้ายและขวา พบได้บริเวณคอฟันระหว่างฟันกรามซี่ที่หนึ่งและฟันกรามน้อยซี่ที่สอง 1.2 ริกเก็ตส์ ยูทิลิตี อาร์ช ทำให้เกิดการะกระจายของความเค้นไม่สม่ำเสมอ ความเค้นมากที่สุด พบได้บริเวณด้านใกล้กลางของฟันตัดซี่ข้างขวา ส่วนในบริเวณอื่นๆ พบความเค้นกระจายระหว่างปลายรากฟันหน้าทั้งสามซี่ และบริเวณคอฟันพบความเค้นกระจายประมาณ 2/3 ของความยาวรากฟันเมื่อวัดจากระดับคอฟันมาทางด้านล่าง ในบริเวณฟันหลัง การกระจายของความเค้นมีความแปรปรวน กล่าวคือ ทางด้านซ้าย พบความเค้นบริเวณคอฟัน และทางด้านใกล้กลางของรากใกล้กลางของฟันกรามซี่ที่หนึ่งกระจายเข้าหาด้านไกลกลางของฟันกรามน้องซี่ที่สอง ทางด้านขวา ความเค้นกระจายจากปลายรากของฟันกรามไปจนถึงฟันกรามน้อยซี่ที่หนึ่งและบริเวณคอฟันระหว่างฟันกรามน้อยทั้งสองซี่ 2 การกระจายของความเค้นซึ่งเกิดจากลวดกดฟันหน้าล่างทั้งสองเทคนิคแตกต่างกันทั้งบริเวณฟันหน้าและฟันหลัง แม้ในขนาดแรงเท่ากัน กล่าวคือ บริเวณฟันหน้า เบอร์สโตน อินทรูชีฟ อาร์ช ซึ่งกดฟันด้วยแรง 50 กรัม ทำให้เกิดความเค้นรอบรากประมาณ 2/3 ของความยาวรากฟันและกระจายขึ้นสู่บริเวณคอฟัน เมื่อขนาดแรงเพิ่มขึ้น จะเกิดความเค้นสองบริเวณ คือ บริเวณรอบปลายรากฟัน และบริเวณคอฟัน ในขณะที่ริกเก็ตส์ ยูทิลิตี อาร์ช ซึ่งกดฟันหน้าด้วยแรงขนาดเดียวกัน ทำให้เกิดความเค้นบริเวณปลายรากและบริเวณคอฟัน เมื่อขนาดแรงเพิ่มขึ้นความเค้นค่อนข้างคงเดิม บริเวณฟันหลังเบอร์สโตน อินทรูชีฟ อาร์ช ทำให้เกิดความเค้นกระจายรอบปลายรากของฟันหลังทุกซี่ในขณะที่ริกเก็ตส์ ยูทิลิตีอาร์ช มีผลต่อผันกรามซี่ที่หนึ่งมากที่สุด
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
ศรีมานนท์, รัชดาภรณ์, "การศึกษาเปรียบเทียบการกระจายของความเค้นจากการกดฟันหน้าล่าง ด้วยเบอร์สโตน อินทรูซีฟ อาร์ช และริกเก็ตส์ ยูทิลิตี อาร์ช โดยวิธีโฟโตอีลาสติก" (1992). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 38732.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/38732